หากเราพูดถึงเกมแนว Open World ที่ได้รับความนิยมสูงสุด แน่นอนว่า ชื่อของเกม Grand Theft Auto หรือ GTA เกมดังจากค่าย Rockstar จะติดทำเนียบในกลุ่มเกมประเภทนี้ด้วย ซึ่งเกม GTA ก็คือเกมที่เราจะได้สัมผัสเรื่องราวของอาชญากรรมและสามารถทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ บวกกับเรื่องราวแต่ละภาคที่เข้มข้นและชวนลุ้นราวกับภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ซึ่ง GTA ถือเป็นเกมที่มีแฟนเกมมากมายทั่วโลกและทำยอดขายในระดับพึงพอใจ และมีสร้างออกมาหลายภาค

ในขณะที่เกมได้รับความชื่นชมจากแฟนเกม ขณะเดียวกันก็มีเหล่าผู้ใหญ่หรือสื่อต่างๆจับจ้องไปที่เกมนี้เป็นพิเศษ เพราะด้วยเนื้อหาที่เป็นโทนอาชญากรรมที่เนื้อหาเต็มไปด้วยความรุนแรง ทั้ง ภาษา ท่าทาง ที่หวั่นเกิดเลียนแบบ แถมเมื่อมีข่าวอาชญากรรมซึ่งหลายครั้ง GTA ก็จะเป็นเกมแรกๆที่ถูกโทษจากสังคมและมองว่า ส่งเสริมความรุนแรง รวมถึงเหตุการณ์ทั้งทางตรงและทางอ้อมที่ทำให้เกมบางภาคอาจต้องถูกถอดถอนห้ามจำหน่าย เลยทีเดียว วันนี้เราจะไปดู10เรื่องราวข่าวดังที่เกี่ยวข้องกับเกม GTA มาฝากกันครับ

คำเตือน: เนื้อหาต่อไปนี้อาจมีภาพรุนแรง หรือ ไม่เหมาะสม และ ใช้วิจารณญาณในการชม

10.) ภารกิจ Final Interview

ในเกม GTA ภาค 4 นั้นจะมีภารกิจที่ชื่อว่า Final Interview ซึ่งเราจะต้องไปสังหารนักกฎหมายที่เป็นเป้าหมายในภารกิจนี้ ซึ่งดูเหมือนว่าตอนเกมวางจำหน่ายก็เหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ก็เกิดปัญหาเมื่อมีทนายความและนักรณรงค์ต่อต้านความรุนแรงที่ชื่อว่า Jack Thompson ได้ออกมาร้องเรียน เพราะว่าฉากจากภารกิจนี้ได้มีการล้อเลียนเขาผ่านวลีว่า Gun’s Don’t ‘Kill People, Video Games Do! หรือ ปืนไม่เคยฆ่าใคร วีดีโอเกมต่างหากที่ฆ่าคน ซึ่งเหตุการณ์นี้ ทำให้ทนายคนนี้ออกมาร้องเรียนและข่มขู่ไปยังค่ายต้นสังกัดอย่าง Rockstar Games ว่าจะทำทุกอย่างเพื่อแบนเกมนี้สถานเดียว

ปัจจุบันนี้นาย Jack ก็ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นทนายความ ส่วนหนึ่งเพราะการร้องเรียนที่หลายครั้งเขาร้องเรียนเพื่อจะบอกสังคม แต่บางครั้งการร้องเรียนบางทีออกไปทางหมิ่นประมาทและก่อกวน จนโดนเพิกถอนใบอนุญาตการเป็นทนายความในที่สุด

9.) เมาแล้วขับในเกมได้

อีกเหตุการณ์ในภาคที่ 4 ที่ถูกพูดถึงก็คือ องค์กร Madd หรือ Mothers Against Drunk Driving ซึ่งเป็นองค์กรรณรงค์และหยุดยั้งการเมาและขับได้ออกมาร้องเรียนว่า GTA ภาค 4 ได้มีฉากที่ตัวเอกเราสามารถดื่มแอลกอฮอล์และขับรถได้ในเกม ซึ่งหวั่นเกรงว่าผู้เล่นจะเลียนแบบตาม จึงได้ยื่นคำร้องไปยัง ESRB ซึ่งเป็นองค์กรที่คอยจัดเรทติ้งเกม จากเรท M เป็นเรท AO หรือ Adults Only พร้อมกับกล่าวว่า การเมาแล้วขับไม่ใช่เรื่องตลก ทางด้าน Rockstar ก็ออกมาชี้แจงว่า ทางบริษัทเกมพร้อมจะปฏิบัติตามกฎแต่พวกเขาเชื่อว่า ผู้เล่นสามารถแยกแยะและเข้าใจเนื้อหาของเกมได้ แต่ภายหลังทาง ESRB ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเรทเกมนี้แต่อย่างใด

8.) ภาค 3 ถูกแบนในประเทศออสเตรเลีย

GTA ภาค 3 อาจเรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนของเกมชุดนี้ หลังจากที่สองภาคแรกทำออกมาในรูปแบบ 2 มิติ และเป็นภาพมองบน จนมาถึงภาคนี้ พวกเขาเปลี่ยนเป็นเกม 3 มิติเป็นภาคแรก ที่มาพร้อมกับความสมจริงที่เพิ่มขึ้น และแน่นอนว่าเนื้อหาที่เข้มข้นและรุนแรงขึ้น เรียกว่า GTA เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ ทำให้ทางประเทศออสเตรเลียลงดาบด้วยการแบนเกมนี้ไปพักหนึ่ง ก่อนที่ทาง Rockstar เจ้าเก่าจะตัดเนื้อหาที่เป็นปัญหาก่อนจะวางจำหน่ายอีกครั้งและคราวนี้ออสเตรเลียปลดล็อคโทษแบนและให้วางจำหน่ายให้กับผู้เล่นอายุ 15ปีขึ้นไป ซึ่งรวมถึงภาค Vice City ภาคที่ออกมาภายหลัง

7.) บทสนทนาที่เหยียดเชื้อชาติ

ใน GTA ภาค Vice City ก็เป็นอีกครั้งที่มีปัญหาใหญ่ที่เกิดจากบทสนทนาเพียงไม่กี่คำ นั่นคือบทสนทนาในตอนที่พระเอกต้องไปเกี่ยวข้องกับสงครามระหว่างคิวบาและชาวเฮติ ซึ่งเกมก็แสดงภาพและคำพูดที่เหมือนเป็นการเหยียดเชื้อชาติทั้งสอง ทำให้ผู้คนทั้งสองชาติที่พำนักอยู่อเมริกาต่างไม่พอใจกับภาพเกิดขึ้น ในเกมจนต้องร้องเรียน ทำให้ค่ายเกม Rockstar (อีกแล้วหรือ!!) จึงตัดสินใจออกเวอร์ชั่นที่ได้มีการปรับบทสนทนาให้ซอฟต์ลงที่สุด ก่อนที่ทุกอย่างจะจบลงด้วยดี

6.) เปลี่ยนลายเสื้อ

ในตอนที่ Vice City ได้ทำการรีมาสเตอร์ใหม่พร้อมภาค 3 และ San Andreas ซึ่งในภาคนี้แม้ตัวเกมจะยังเหมือนเดิม แต่ก็มีการเปลี่ยนรายละเอียด ซึ่งหนึ่งนั้นคือเสื้อของ Phil Cassidy ที่เวอร์ชั่นเดิมจะเป็นลายธงสมาพันธรัฐ แต่รอบนี้จึงเปลี่ยนเป็นลายหัวกะโหลก สาเหตุเพราะว่าช่วงนั้นเกิดเหตุที่มีการเรียกร้องให้ปลดธงสมาพันธรัฐซึ่งเป็น “สัญลักษณ์ที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง” ซึ่งมีหลายเกมเริ่มลงดาบหากใครนำสัญลักษณ์นี้ไปใช้ หนึ่งในนั้นคือเกมแข่งรถ Forza ที่จริงจังด้วยการแบนผู้เล่นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความขัดแย้ง อย่างจริงจัง

5.) ภารกิจ By The Book

ภารกิจจากภาคล่าสุดที่เราจะได้เล่นเป็น เทรเวอร์ เพื่อทำการเค้นความลับเป้าหมายทุกวิถีทางจนกว่าจะปริปาก แต่ว่าวิธีการเค้นความลับนั้นภาพที่ออกมาดูจะรุนแรง ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความรุนแรง แต่ก็เพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

4.) ดาราใหญ่ฟ้องข้อหาใช้เป็นต้นแบบโดยไม่ได้รับอนุญาต

ถือเป็นข่าวฮือฮาพักใหญ่เมื่อดาราสาวชื่อดังอย่าง ลินด์เซย์ โลฮาน ตัดสินใจยื่นฟ้อง Rockstar ในข้อหาที่พวกเขาใช้เธอเป็นแบบหนึ่งในตัวละครของภาค 5 โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งคาแร็คเตอร์ และการแต่งตัว แต่อย่างไรก็ตาม Rockstar และ Take Two บริษัทแม่ของเจ้าของสิทธิ์เกมดัง ก็ออกมาจวกดาราสาวชื่อดังว่าเพียงแค่ทำตัวเรียกร้องความสนใจเท่านั้น ท้ายที่สุดคดีนี้ก็ถูกยกฟ้องและ Rockstar ก็รอดพ้นทุกข้อกล่าวหา

3.) Thomas Stubbs

ในเกม DLC ของภาคที่ 4 ในตอน The Lost and Damned จะมีตอนหนึ่งที่ตัวละครเอกของเราไปเจอกับตัวละครที่ชื่อว่า Thomas Stubbs แต่เจอกันในฉบับไม่ใส่เสื้อผ้า ซึ่งเป็นอีกครั้งที่ภาคนี้เรียกว่าสังคมพร้อมจะร้องเรียนถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำเอา องค์กรที่ชื่อ Common Sense Media ซึ่งทำหน้าที่สนับสนุนสื่อสร้างสรรค์และปลอดภัยสำหรับเด็กออกมาร้องเรียนทันที

2.) Hot Coffee Mod

ในช่วงที่ภาค GTA San Andreas โด่งดังจนมีเหล่านักสร้าง Mod มากมายปล่อย Mod ตอบสนองความต้องการของผู้เล่น แต่จะมี Mod ที่เปรียบเหมือนน้ำผึ้งหยดเดียวที่เกิดเรื่องราวใหญ่โตในวงกว้าง นั่นคือ Mod ที่ชื่อว่า Hot Coffee เกิดขึ้นในปี 2005 ซึ่งมันคือ Mod ขยายส่วนในตอนที่เราไปเดทกับแฟนสาวจนถึงจุดหนึ่งเมื่อเราไปส่งสาวที่บ้านแล้วอีกฝ่ายถาม เธอก็จะชวนเราไปดื่มกาแฟ (ครับ…กาแฟจริงๆ)

ซึ่งปกติถ้าเรากดตกลงฉากจะตัดมาที่หน้าบ้านแล้วภาพสั่นไหว (เอาเป็นว่ากาแฟอร่อย ฮ่า!) ซึ่งMod อันนี้ต่อยอดจนเห็นข้างในแบบเต็มๆ นั่นล่ะครับกลายเป็นว่าสิ่งนี้ได้รับความนิยมจนเรื่องเลยเถิด เมื่อสังคมมองว่ามันกลายเป็นเกมล่อแหลม 18+ แถมยังถูกขึ้นพิจารณาในสภามาแล้ว แถมทาง ESRB ที่ทำหน้าที่จัดเรทติ้งจึงต้องปรับเรท M เป็น เรท AO หรือ Adults Only ซึ่งทำให้ไม่สามารถจำหน่ายในร้านค้าที่ห้ามจำหน่ายเกมแนว 18+ ส่วนประเทศออสเตรเลียก็ทำการลงดาบด้วยการถอดถอนเกมห้ามจำหน่าย จนกลายเป็นประเด็นระดับชาติเลยทีเดียว

ทำให้ Rockstar และ Take Two บริษัทแม่ของเจ้าของสิทธิ์เกมดังที่ตอนนั้นแทบล้มจากเหตุการณ์นี้จึงแก้เกมด้วยการ ปล่อยแพชชื่อ Cold Coffee และในส่วนของเครื่องเล่นอย่าง PS2 และ XBOX ก็ตัดฉากส่วนเจ้าปัญหาออกไป

1.) เหตุอาชญากรรม

แน่นอนว่าข่าวดังที่เกิดขึ้นและส่งผลกระทบกับเกม GTA ก็คือ อาชญากรรมที่คนร้ายออกมาสารภาพว่าการกระทำส่วนหนึ่งมาจากการเลียนแบบเกมดังจนเป็นข่าวครึกโครม ไม่ว่าในบ้านเราและต่างประเทศโดยเฉพาะอเมริกาที่เป็นต้นตำรับและเกิดขึ้นหลายครั้ง ทำให้สังคมมองว่าเป็นเกมอันตราย แต่ก็มีบางกลุ่มที่ไม่ได้เล่นก็เหมารวมเหมือนเกมอื่นที่มีเนื้อหารุนแรง แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีหลายคนมองว่าเกมรุนแรงบางเกม มันก็คือสื่อบันเทิงประเภทหนึ่งเหมือนหนังละครที่มีเนื้อหารุนแรงและต้องมีการจัดเรทที่เหมาะสม ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน

ส่วนตัวมองว่าเกม GTA ก็สามารถที่จะสอนผู้เล่นเหมือนเกมอื่นๆหลายอย่าง เช่น ฉากหลังเรื่องราวมันไม่ได้เท่หรือดูดีในสายตาคนอื่น เพราะบางคนก็ไม่ได้จบลงแบบสวยงาม รวมถึงการขับรถ มีสติตลอดเวลา

ก็จบกันไปสำหรับ 10 ข่าวหรือเหตุการณ์ดังที่เกี่ยวข้องกับเกม GTA เล่าสู่กันฟังครับ ใครอยากแลกเปลี่ยนหรือเล่าเพิ่มเติมก็แชร์กันเข้ามาได้เลยครับ….

@P.PETTY

ข้อมูลประกอบอ้างอิง
https://www.youtube.com/watch?v=-ORay5hplMk&ab_channel=GUFUNNAROCK
https://www.youtube.com/watch?v=-DxtLdQQDFE&ab_channel=BangkokEsports
https://screenrant.com/gta-trilogy-confederate-flag-shirt-phil-cassidy/
https://whatculture.com/gaming/20-biggest-wtf-moments-in-gta-history?page=16
https://www.beartai.com/news/26105
https://whatculture.com/gaming/20-most-embarrassing-video-game-moments-since-2000?page=12