ถือว่าเป็นหนึ่งในผลงานที่น่าจับตามองของปีนี้สำหรับ Everything Everywhere All At Once อีกหนึ่งผลงานที่ฉีกแหวกแนวการแสดงของนักบู๊สาวค้างฟ้า มิเชล โหย่ว สำหรับใครที่รู้จักเธอในตอนนี้คือนักแสดงสายฝีมือ แต่ถ้าใครเป็นสายหนังบู๊แอ็คชั่น จะรู้จักเธอในฐานะราชินีนักบู๊ตัวแม่ที่ฝากฝีไม้ลายมือการแสดงไว้มากมาย วันนี้เพื่อต้อนรับการกลับมาบู๊ในรอบหลายปีก่อนไปตะลุยในมัลติเวิร์ส เราจะย้อนกลับไปดู 10 ผลงานที่น่าจดจำของเธอเรียกน้ำย่อยมาฝากกันครับ

10.) Yes, Madam! (1985)

หลังจากที่เธอมีชื่อเสียงจากเวทีนางงามมาเลเซีย จนได้มีโอกาสถ่ายแบบโฆษณาจนกลายเป็นประตูนำพาให้รู้จักกับ เฉินหลงและโจวเหวินฟะ ทำให้เธอได้แสดงหนังเรื่องแรก The Owl and Dumbo:คู่ซ่าส์จอมแสบ (1984) ร่วมกับ หลิน จื่อเสียง และหงจินเป่า แต่ถ้าพูดถึงหนังที่สร้างชื่อให้เธอจริงๆเป็นครั้งแรก ต้องยกให้กับเรื่อง Yes, Madam! หรือชื่อไทย โอ้โห ซือเจ๊ ที่เรียกได้ว่าคือผลงานที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักในวงกว้างในยุคที่หนังฮ่องกงเฟื่องฟูสุดขีด

9.) Royal Warriors (1986)

เรื่องราวของเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงฝีมือดีที่ต้องร่วมมือกับ เจ้าหน้าที่หน่วยรักษาความปลอดภัยทางอากาศและตำรวจญี่ปุ่นที่ลาออกจากราชการ เพื่ออยู่กับครอบครัว ในการหยุดแผนการร้ายจี้เครื่องบินขนส่งนักโทษจากโตเกียวไปฮ่องกง ทำให้เหล่านักโทษที่รอดมาได้ต่างต้องการล่าชีวิตทั้งสามเพื่อล้างแค้น ในตอนนั้น ฮิโรยูกิ ซานาดะ ที่ร่วมแสดงเรื่องนี้ด้วย ยังหล่อหน้าใส ก่อนที่เขาจะกลายเป็นดาวค้างฟ้าของวงการมายาจนปัจจุบัน

8.) Police Story 3: Super Cop (1992)

หลังจากที่ชีวิตคู่ของเธอไม่ประสบผลสำเร็จทำให้ในปี 1992 มิเชล โหย่ว ก็ได้หวนกลับสู่วงการมายาอีกครั้งจากคำชวนของเฉินหลงให้มาแสดงในภาพยนตร์แอ็คชั่นอย่าง Police Story 3 : Super Cop ซึ่งเธอรับบทเป็นตำรวจที่ทางจีนส่งมาช่วยพระเอกของรื่องในการจัดการกับแก็งค์อาชญากรที่ทางการกำลังต้องการตัวซึ่งบทนี้ทำใหเธอได้กลับมาโชว์บทบู๊เต็มที่ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของแฟนหนัง จนมีภาคหนังแยกเป็นของตัวเองในชื่อว่า Super Cop 2

7.) The Tai Chi Master (1993)

เรื่องราวของสองเพื่อนซี้ที่เปลี่ยนคำว่ามิตรภาพกลายเป็นศัตรูเพื่อครองความเป็นใหญ่เพียงหนึ่งเดียว ด้วยวิชาหมัดไทเก๊ก ถือเป็นหนึ่งผลงานสร้างชื่อ แล้วทำให้ มิเชล โหย่ว์ และ เจ็ท ลี กลายเป็นภาพจำของหนังเรื่องนี้ แถมยังได้มีโอกาสกลับมาแสดงอีกครั้งในหนังฮอลลีวู้ดอย่าง The Mummy 3 อีกด้วย

6.) Tomorrow Never Dies (1998)

นี่คือผลงานระดับฮอลลีวู้ดเรื่องแรกที่ทำให้ชื่อของเธอเป็นที่รู้จักในวงกว้าง เมื่อรับบทเป็นสายลับสาวชาวจีนที่ต้องมาช่วยสายลับเจ้าเสน่ห์นาม เจมส์ บอนด์ ที่ต้องหยุดแผนชั่วร้ายของเจ้าของสำนักข่าวชื่อดังที่มีแผนจะจุดชนวนสงครามโลกครั้งที่สาม ทำให้ตัวเองได้สิทธิ์เผยแพร่ข่าวสงครามเพียงผู้เดียว ถือเป็นหนัง007ที่น่าจดจำ โดยเฉพาะบ้านเราซึ่งหนังเรื่องนี้ได้ยกกองมาถ่ายทำที่เมืองไทยด้วย

5.) Memoirs Of A Geisha (2005)

แม้ว่าช่วงหลัง มิเชล โหย่ว์ ไม่ได้แสดงบู๊เหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ยังมีผลงานให้เห็นบ้างซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผลงานดราม่าสายฝีมือ ซึ่งหนึ่งในนั้นคืองานระดับรางวัลอย่าง Memoirs Of A Geisha หรือชื่อไทย นางโลมโลกจารึก การันตีด้วยสามรางวัลจากเวทีออสการ์ ว่าด้วยเรื่องราวของเด็กสาวที่ต้องพลัดพรากครอบครัวไปทำงานในสำนักเกอิชา ที่แม้จะมีคู่ปรับระดับนางพญา แต่เธอก็อดทนจนหลายปีต่อมากลายเป็นเกอิชาที่เปี่ยมความสามารถและเป็นที่หมายปองของชายหนุ่ม

4.) The Mummy: Tomb of the Dragon Emperor (2008)

ผลงานกลับมาบู๊ในทางที่ถนัดแถมยังได้ เจ็ท ลี กลับร่วมงานในหนังฮอลลีวู้ดซึ่งเป็นหนังภาคที่ 3 ของ The Mummy ที่เปลี่ยนฉากหลังจากอียิปต์มาเป็นเมืองจีน กับเรื่องราวของ ซือหยวนที่ต้องร่วมมือกับ ริค โอ คอนเนลและพวกในการหยุดแผนร้ายของจักรพรรดิผู้ชั่วร้ายที่ถูกเธอสาปให้เขาและกองทัพกลายเป็นตุ๊กตาดินเผา แต่เมื่อมีกลุ่มคนที่ปลุกเขาขึ้นมางานนี้ ซือหยวนจึงต้องสู้กับวายร้ายอีกครั้ง

3) Crazy Rich Asians (2018)

หนึ่งในผลงานที่ถูกพูดถึงเมื่อปี 2018 เป็นหนังฮอลลีวู้ดที่ใช้นักแสดงเอเชียส่วนใหญ่ในรอบ20ปี กับเรื่องราวความรักของนางเอกที่ไปงานแต่งงานเพื่อนของแฟนหนุ่ม ซึ่งทำให้เธอได้พบความจริงว่า แฟนหนุ่มของเธอเป็นถึงทายาทเศรษฐีลำดับต้นๆของประเทศ ทำให้เธอต้องพิสูจน์ตัวเองและชนะใจทุกคนที่ไม่ยอมรับในตัวเธอ โดยเฉพาะแม่ของนิคที่ถือเป็นด่านสำคัญ

2.) The Lady (2011)

ภาพยนตร์ดราม่าที่เธอได้ร่วมงานกับผู้กำกับระดับแนวหน้าของวงการอย่าง ลุค เบซง ที่บอกลรื่องราวของ อองซานซูจี กับความรักกับ ไมเคิ่ล อริส แฟนหนุ่มของเธอ ก่อนที่เธอจะก้าวสู่เส้นทางถนนทางการเมืองในฐานะผู้นำฝ่ายค้านของพม่า ก่อนที่จะถูกกักตัวอยู่ที่บนหลายทศวรรษ ซึ่งตัวหนังได้พาไปสัมผัสเรื่องราวของความรัก กับ ความวุ่นวายผ่านฉากหลังของเกมการเมืองที่เธอต้องเผชิญ

1.) Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000)

และถ้าจะพูดถึงผลงานระดับตำนานที่ถือว่าเป็นโปรไฟล์ชั้นเยี่ยมของ มิเชล โหย่ว แล้วละก็ คงต้องยกให้กับหนังเรื่องนี้ผลงานการกกำกับของอั่งลี่ และได้ร่วมงานกับนักแสดงเอเชียชั้นนำมากมาย และสร้างปรากฏการณ์ด้วยการคว้า 4 รางวัลจากเวทีออสการ์ จนทำให้หนังจีนกำลังภายในกลับมาฮิตอีกครั้ง ก่อนที่จะมีภาคต่อในปี 2015 แต่ก็ไม่ยิ่งใหญ่เทียบได้กับภาคแรกเลย

ทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่ง 10 ผลงานของ มิเชล โหย่ว ที่นำมาฝากกัน ก่อนไปชมผลงานล่าสุดอย่าง Everything Everywhere All At Once … “ซือเจ๊..ทะลุมัลติเวิร์ส” เข้าฉาย 12 พฤษภาคมนี้ ใครชอบผลงานซือเจ๊นักบู๊ ชอบเรื่องไหนมากที่สุด ลองมาแชร์เล่าสู่กันฟังได้เลยครับ

@P.PETTY