หากจะพูดถึงชายผู้เป็นตำนานของวงการหนังในฮ่องกงโดยเฉพาะหนังแนวแอ็คชั่น ชื่อที่ใครหลายคนจะต้องนึกถึงคือ จอห์น วู ผู้กำกับคนดังที่สามารถเนรมิตฉากบู๊สุดเท่ผสานเข้ากับความเป็นศิลปะและความรักต่อหนังของเขา บวกกับเรื่องราวชวนหม่นหมอง สามสิ่งนี้ทำให้เขาได้รับการยอมรับเป็นผู้กำกับกับระดับแนวหน้าจนได้มีโอกาสไปกำกับกับหนังในฮอลลีวู้ด
เพื่อต้อนรับผลงานล่าสุดส่งท้ายปีอย่าง Silent Night ที่เป็นการกลับมาสู่ฮอลลีวู้ดของเขาอีกครั้ง
วันนี้เราจะย้อนไปดู 10 ผลงานที่น่าจดจำของเขากันครับ ไปดูกันว่าจะมีผลงานเรื่องไหนกันบ้าง….
10.) Laughing Times ซือเป๋ แซ่ตลก (1981)
เริ่มจากผลงานยุคแรกๆของเขา ที่เขียนบทและกำกับ โดย เขาทำงานร่วมกับ กลุ่มดาวตลกอย่าง ซื่อเทียน ,เหมาะเจีย และ หวงไป่หมิง บัณฑิตจาก คณะวรรณกรรมจีนคลาสสิค แห่งมหาวิทยาลัยฮ่องกง ที่ผันตัว เป็นนักแสดงแล้วก่อตั้งบริษัทภาพยนตร์ชื่อ Cinema City ซึ่งตัวหนังใช้สไตล์การเล่าเรื่องของราชาตลกโลกอย่าง ชาร์ลี แชปลิน มาเป็นแรงบันดาลใจ
9.) Hard Boiled ทะลักจุดแตก (1992)
นี่คือหนึ่งในสุดยอดผลงานขึ้นหิ้งของเขา แล้วยังเป็นงานทิ้งมวนก่อนจะไปกำกับหนังที่ฮอลลีวู้ด แถมยังได้นักแสดงดังอย่าง โจวเหวินฟะ เหลียงเฉาเหว่ย และ หวงชิวเซิง มาประชันบทบาทเฉือนคม
ว่าด้วยตัวเอกที่ต้องสูญเสียเพื่อนไปในภารกิจที่โรงน้ำชา ทำให้เขาตัดสินใจออกไล่ล่าคนที่มีส่วนทำให้เพื่อนของเขาต้องตาย นั่นคือ หัวหน้าแก๊งค้าอาวุธที่ตำรวจกำลังต้องการตัว พร้อมกับได้เจอสายลับที่ถูกส่งเข้าไปเป็นสายในแก๊ง ก่อนจะพบว่า กลุ่มวายร้ายได้เปลี่ยนห้องใต้โรงพยาบาลกลายเป็นคลังเก็บอาวุธขนาดใหญ่ ทั้งสองจึงต้องร่วมมือกันก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
8.) Bullet in the Head กอดคอกันไว้ อย่าให้ใครเจาะกะโหลก (1990)
ผลงานที่ จอห์น วู ตั้งใจจะให้เป็น โหด เลว ดี 3 และปิดไตรภาคอย่างสมบูรณ์
แต่น่าเสียดายที่เขาและ ฉีเคอะ หนึ่งในผู้กำกับมีปัญหากัน จนทำให้เขาต้องยอมควักทุนตัวเองสร้างเอง แถมตัวหนังได้ยกกองมาถ่ายที่เมืองไทย แม้ตัวหนังจะไม่สามารถเอาชนะ โหด เลว ดี 3 ของ ฉีเคอะ
แต่หนังเรื่องนี้ก็กลายเป็นอีกผลงานของจอห์น วู ที่หลายคนยกให้เป็นผลงานน่าจดจำ หนังเล่าถึงเรื่องราวของเพื่อนรักสามคนที่เกิดขึ้นในปี 1967
เมื่อ แฟรงก์ (แจ็คกี้ จาง) ถูกลูกกระจ๊อกของแก๊งมาเฟียศัตรูรุมทำร้ายขณะเดินทางไปงานแต่งของ เบน ( เหลียงเฉาเหว่ย) จุดชนวนให้ เบน และ พอล (เวส ลี) เพื่อนสนิทอีกคนโมโหและตัดสินใจฆ่าหัวหน้าแก๊งมาเฟียนั้นทิ้งทันที ก่อนพวกเขาจะหลบหนีความผิดไปกบดานอยู่ที่เวียดนามด้วยกัน
แต่ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างเพราะในขณะนั้นเวียดนามกำลังระอุไปด้วยสงครามใหญ่พอดี และแม้พวกเขาจะเอาตัวรอดได้ด้วยการทำธุรกิจมืดกับมาเฟียฮ่องกงในไซง่อน แต่สุดท้ายก็ก่อเรื่องให้ตัวเองถูกตามล่าอีกครั้งจากทั้งลูกสมุนมาเฟียใหญ่และพวกเวียดก ซึ่งนั่นทำให้ชีวิตและมิตรภาพระหว่างพวกเขาได้พังทลายไปตลอดกาล
7.) The Killer โหดตัดโหด (1989)
อีกหนึ่งผลงานที่โดดเด่นของ จอห์น วู ที่ได้ใส่ความเป็นตัวเองลงไปในหนัง ว่าด้วยเรื่องราวของนักฆ่า ที่คิดจะวามือจากการฆ่าคนหลังจากที่เขามีส่วนผิดที่ทำให้นักร้องสาวที่เขาเจอต้องตาบอด
ก่อนที่เขาจะวางมือ ก็มีงานหนึ่งที่เขาหวังจะเป็นงานสุดท้ายแต่งานนี้มันไม่ง่าย เพราะดันมีตำรวจฝีมือดีที่กำลังตามล่าเขาอยู่ งานนี้ไม่มีทางจบลงง่ายๆแน่นอน
6.) A Better Luck Tomorrow โหด เลว ดี (1988)
ถ้าพูดถึงงานของ จอห์น วู ที่แค่เอ่ยชื่อแล้วร้องอ๋อทันที แน่นอนว่าหนังเรื่องนั้นคือ โหด เลว ดี ภาคแรก ที่ทำให้ภาพจำของพระเอกในแว่นตากันแดด กับ ฉากยิงปืนแบบ Non Stop ที่กลายเป็นฉากลายเซ็นของหนังเรื่องนี้ไปโดยปริยาย
หนังมีสามภาค แต่อย่างที่บอกไปว่าภาคแรกกลายเป็นตำนานของวงการหนังฮ่องกงอย่างแท้จริง แถมหนังเรื่องนี้ทำให้ชื่อของ ตี้หลุง อดีตพระเอกยุคทองของ Shaw Brothers ได้กลับมาโลดแล่นในวงการอีกครั้งหนึ่ง
5.) Hard Target คนแกร่งทะลวงเดี่ยว (1993)
หลังจากสร้างชื่อในฮ่องกงหลายปี คราวนี้เขาก็ได้โอกาสสำคัญเมื่อทางฮอลลีวู้ดได้เรียกตัวเขาให้มากำกับหนังเรื่องนี้นับเป็นผลงานโกอินเตอร์เรื่องแรกของเขาก็ว่าได้
แถมยังได้พระเอกยอดนักบู๊อย่าง ฌอง คลอด แวนแดม มารับบทเป็นชายหนุ่มที่ต้องคุ้มกันนางเอกที่กำลังตามหาพ่อของเธอ แต่นั้นทำให้ทั้งคู่ต้องเข้าสู่เกมไล่ล่าอันตรายที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน เรียกว่างานนี้ จอห์น วู นำประสบการณ์จากฮ่องกงมาใช้ในหนังเรื่องนี้เต็มเปี่ยม
4.) WINDTALKERS สมรภูมิมหากาฬโค้ดสะท้านนรก (2002)
แม้ว่าภาพจำของ จอห์น วู จะนึกถึงหนังแอ็คชั่นไล่ล่าที่ผสานเข้ากับศิลปะ แต่มีครั้งหนึ่งที่เขาตอบรับกำกับหนังสงคราม แถมได้ นิโคลัส เคจ มารับบทนำ
เรื่องราวเกิดขึ้น สงครามโลกครั้งที่ 2 ฝ่ายญี่ปุ่นสามารถเจาะเข้ารหัสลับของกองทัพอเมริกันได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้อเมริกันเริ่มคิดที่จะใช้ภาษาถิ่นของอินเดียนแดง หรือ ภาษานาวาโฮ (Navajo) ทำให้ทหารอเมริกันเชื้อสายอินเดียนแดงถูกเกณฑ์ในรหัส “Code Talkers” ทุกอย่างในรหัสนี้จะไม่มีการจดบันทึก จึงเป็นเพียงรหัสเดียว ที่ทหารญี่ปุ่นไม่สามารถเจาะผ่านได้
3.) Broken Arrow คู่มหากาฬ หั่นนรก (1996)
ผลงานที่ครั้งนี้ความน่าสนใจคือการพลิกบทร้ายของ จอห์น ทราโวต้า เมื่อเขาตัดสินใจวางแผนจะขโมยหัวรบนิวเคลียร์ในช่วงฝึกบิน และมีแผนจะฆ่าปิดปากพระเอกหรือเพื่อนร่วมบิน แต่ทว่าอีกฝ่ายก็มีฝีมือสมน้ำสมเนื้อจนนำไปสู่เกมการไล่ล่าที่มีชีวิตคนเป็นเดิมพัน
2.) Mission Impossible 2 / ฝ่าปฏิบัติการสะท้านโลก 2 (2000)
ผลงานที่คนทั้งโลกได้รู้จักชื่อของ จอห์น วู เพราะว่าเขาได้กำกับหนังชุดแนวจารชนี่มีสุดยอดพระเอกอย่าง ทอม ครูซ มารับบทนำ โดยภาคนี้จะเล่าต่อจากภาคแรกเมื่อ พระเอกของเรา ได้รับมอบหมายให้ค้นหา และ กำจัดอาวุธชีวเคมีที่เรียกว่า “Chimera” และ ตัวแสบของภารกิจนี้คืออดีตเจ้าหน้าที่ IMF ที่อยู่เบื้องหลังร้ายครั้งนี้
1.) Face Off สลับหน้า ล่าล้างนรก(1998)
นี่คือผลงานที่ถือว่าเข้าขั้นสุดยอด ด้วยเหตุผลสองข้อ อย่างแรก จอห์น วู กำกับ และสองคือการโคจรของสองนักแสดงชายที่กำลังรุ่งสุดขีดอย่าง จอห์น ทราโวต้า และ นิโคลัส เคจ มาประชันบทบาท
ว่าด้วยเรื่องราวของเอฟบีไอที่เสียลูกชายจากคนร้ายผู้เป็นคู่แค้นของเขา โดยหลังจากจับกุมได้ ก็ตัดสินใจใช้ประโยชน์จากอีกฝ่ายด้วยการสลับใบหน้าแล้วแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มอีกฝ่ายเพื่อสืบเรื่องราว โดยไม่คิดว่าวายร้ายก็แก้เกมด้วยการใช้ใบหน้าของพระเอก เข้าไปแฝงตัวในเอฟบีไอเช่นกัน จนเกิดเกมไล่ล่าเฉือนคมที่มีความวับซ้อนจนนำไปสู่บทสรุปของใครคนหนึ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ทั้งหมดนี้คือ 10 ผลงานที่น่าจดจำของ จอห์น วู ก่อนไปชมผลงานล่าสุดเรื่อง Silent Night มาฝากกครับ ใครชอบผลงานเรื่องไหนของเขา ลองมาเล่าสู่กันฟังได้ครับ…
@P.PETTY
ข้อมูลอ้างอิง
https://en.wikipedia.org/wiki/John_Woo
https://editorial.rottentomatoes.com/guide/john-woo/
https://screenrant.com/best-john-woo-movies-ranker/#the-killer-1989
https://www.cbr.com/movies-john-woo-ranked/#once-a-thief-is-a-rare-action-comedy-by-john-woo-1991