หากจะพูดถึงค่ายหนังนอกกระแสที่กำลังเป็นที่พูดถึงในตอนนี้ ชื่อแรกที่หลายคนนึกถึงคือค่าย A24 ซึ่งในช่วงหลังๆที่ผ่านมาค่ายนี้ได้ผลิตหนังนอกกระแสน้ำดีออกสู่สายตาผู้ชม ด้วยสไตล์การทำงาน รูปแบบการสร้าง และความหลากหลายของตัวหนังจากค่ายนี้ ทำให้ชื่อของค่าย A24 เริ่มเป็นที่พูดถึงและอาจเป็นหนึ่งในค่ายหนังที่ทรงอิทธิพลในเวลานี้ การันตีจากการกวาดรางวัลเวทีชั้นนำหลายสถาบันและคำวิจารณ์ของเหล่าแฟนหนังมากมาย

วันนี้เราจะพาแนะนำ 10 หนังยอดเยี่ยมของค่าย A24 กันครับ

10.) Iron Claw (2023)

เริ่มกันที่ผลงานเรื่องแรก โดยหนังได้ Zac Efron ที่ขอเปลี่ยนตัวเองมารับบทนำในหนังจากเรื่องจริง ที่จะพาไปรู้จักกับ ตระกูล Von Erich หนึ่งในตระกูลนักมวยปล้ำอาชีพที่ทรงอิทธิพลในช่วงยุค 70’s-80’s ในเขตเท็กซัส โดยพี่แซ็ครับบทเป็น Kevin Von Erich ที่ต้องเผชิญกับเรื่องราวต่างๆในช่วงที่เขาอยู่ช่วงความสำเร็จไปพร้อมกับการสูญเสียพี่น้องของตนเอง อันเป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวดที่สุด

9.) Past Lives (2023)

หนังรักน้ำดีของค่าย ว่าด้วยเรื่องราวของเพื่อนที่ผูกพันกันอย่างลึกซึ่งในวัยเด็ก ทั้งสองถูกกระชากให้ห่างออกจากกัน สองทศวรรษต่อมา ทั้งสองได้กลับมาพบกันอีกครั้งในนิวยอร์ก ซึ่งมันจะกลายเป็นหนึ่งสัปดาห์ที่เขาและเธอต้องเผชิญหน้ากับโชคชะตา, ความรัก และทางเลือกที่เคยติดสินใจไปในชีวิตที่ผ่านมา

8.) A Prayer before Dawn (2017)

หนังดราม่าคนคุกที่มีฉากหลังคือเมืองไทย โดยหยิบเรื่องราวของนักมวยอังกฤษที่มีตัวตนจริงนามว่า บิลลี่ มัวร์ ที่ถูกจับข้อหาเสพยา จนถูกส่งไปอยู่ในคุกที่เต็มไปด้วยนักโทษคดีร้ายแรง หนทางเดียวที่จะทำให้ชีวิตเขาดีขึ้นนั่นคือการชกมวยในคุกนั่นเอง ตัวหนังถือว่าดิบเถื่อน และฉากชกมวยคือสิ่งที่ดีงามที่สุดของหนังเรื่องนี้

7.) Swiss Army Man (2016)

ภาพยนตร์สุดฮา เปี่ยมด้วยจินตนาการไร้ขีดจำกัด ที่จะพาทุกคนออกเดินทางไปกับเรื่องราวมิตรภาพ และการผจญภัยเหนือธรรมชาติ ผ่านเรื่องราวของชายที่ติดเกาะแล้วกำลังจะฆ่าตัวตาย ก่อนจะเปลี่ยนใจหาทางเอาชีวิตรอดโดยมีเพื่อนคือศพที่อยู่กับเขา จนก่อเกิดเรื่องราวมิตรภาพที่ดูแปลกประหลาดจนคนประทับใจ ผลงานเรื่องนี้ทำให้เราลืมภาพของ Daniel Radciffe พ่อมดน้อยไปพักใหญ่เลยทีเดียว (ฮ่า!)

6.) The Disaster Movie (2017)

หนังที่สร้างจากชีวิตจริงของผู้เขียนบทและผู้กำกับ ทอมมี่ ไวโซว (James Franco) ชายผู้อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์เรื่อง “The Room” ภาพยนตร์ที่ถูกกล่าวกันว่าเป็นหนังที่เลวร้ายเรื่องหนึ่ง แต่ในความเลวร้ายก็มีความประหลาดที่เรียกเสียงฮาจากคนดู จนทำให้หนังเรื่องนี้กลายเป็นหนังคัลท์ที่ฮิตและประสบความสำเร็จขึ้นมา โดยหนังจะพาไปดูเส้นทางล่าฝันบนโลกมายาไปจนถึงวันที่เขาจะสร้างหนังที่จะกลายเป็นตำนานความคลัท์ เฉกเช่น Ed Wood (ตำนานผู้กำกับหนังห่วย ที่ภายหลังหนังของเขากลายเป็นตำนานความคัลท์จนทุกวันนี้)

5.) X (2022)

หากพูดถึงค่าย A24 ที่ขึ้นชื่อหนังนอกกระแสที่หลากหลาย แต่มีหนังเรื่องหนึ่งน่าสนใจ นั่นคือหนังสยองขวัญ ที่บอกเล่าเรื่องราวของกลุ่มถ่ายหนังผู้ใหญ่ที่ต้องเผชิญกับเรื่องราวสยองขวัญสุดโหดที่ค่ำคืนนั้นจะเปลี่ยนชีวิตพวกเขาไปตลอดกาล ซึ่งตัวหนังก็เหมือนจะเป็นการคาราวะหนังสยองขวัญในอดีตมากมาย และยังเป็นผลงานสำคัญของของน้องวันพุธ Jenna Ortega ที่กลายเป็นดาวจรัสแสงในยามนี้

4.) The Lobster (2015)

ผลงานที่การันตีจากรางวัล Jury Prize (จูรี่ไพรส์) หรือ รางวัลขวัญใจกรรมการจากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ปี2015 หนังว่าด้วยเรื่องราว ในยุคอนาคตที่ผู้คนหมดศรัทธาในเรื่องของความรัก คนโสดจะถูกบังคับให้ย้ายเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่เรียกว่า “The Hotel” ก่อนเดินทางพวกเขาต้องเลือกว่า ในชีวิตที่อยู่อย่างไร้รักและโดดเดี่ยว ถ้าเลือกเป็นสัตว์ได้ 1 ชนิด คุณจะเลือกเป็นอะไร หลังการเลือก พวกเขาจะมีเวลา 45 วัน ในการตกหลุมรักและค้นหาคนที่จะเป็นคู่แท้ ถ้าหากว่าหาคู่ไม่ได้ภายในเวลาที่กำหนด ก็จะต้องกลายร่างเป็นสัตว์ที่ตนต้องการไปตลอดกาล

3.) Moonlight (2016)

ดัดแปลงมาจากบทละคร เรื่อง In Moonlight Black Boys Look Blue) เล่าเรื่องราวชีวิตของ ชีรอน เด็กหนุ่มผิวดำคนหนึ่งที่ต้องดิ้นรนกับชีวิตที่เติบโตมาพร้อมกับการถูกรังแก สังคมอันธพาลและยาเสพติด ในขณะที่ความรู้สึกส่วนลึก เขาไม่แน่ใจว่าตนเองกำลังคิดเกินเลยกับเพื่อนสนิทที่รู้จักกันตั้งแต่เด็ก
หนังกวาดรางวัลจากเวทีออสการ์ถึงสามรางวัล หนึ่งในนั้นคือรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

2.) Everything Everywhere All at Once (2022)

ผลงานสร้างชื่อของค่ายจนสามารถคว้ารางวัลออสการ์ปีล่าสุด ถึง 7 รางวัล และทำให้ หญิงบู๊แห่งเอเชียอย่าง Michelle Yeoh คว้ารางวัลสูงสุดในชีวิต หนังเล่าเรื่องราวของหญิงวัยกลางคนที่ต้องแบกรับภาระทุกอย่างภายในครอบครัว จนกระทั่งวันหนึ่งที่เธอหลุดเข้าไปในโลกมัลติเวิร์ส และพบว่าตัวตนในแต่ละมิตินั้นมีเป้าหมายและใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน และมีพลังเหนือธรรมดา กลายเป็นจุดเริ่มต้นความวุ่นวายและการต่อสู้เพื่อเป็น ‘ซือเจ๊’ แค่เพียงหนึ่งเดียว

1.) Whale (2022)

อาจเรียกว่านี่คือผลงานชิ้นโบว์แดงอีกชิ้นของค่าย A24 แล้วทำให้ Brendan Freaser กลับมาเฉิดฉายในวงการอย่างสง่างามพร้อมกับ คว้ารางวัลออสการ์สาขานักแสดงชายอดเยี่ยมในปีล่าสุด (ปีเดียวกับ Everything Everywhere All at Once คว้า 7 รางวัล) เรื่องราวของ ครูสอนภาษาอังกฤษซึ่งป่วยเป็นโรคอ้วนขั้นรุนแรง และรู้ตัวเองดีว่า เวลาที่เหลือของเขา กำลังจะหมดลงในไม่ช้า ได้ใช้ความพยายามครั้งสุดท้ายของชีวิต เพื่อยุติรอยร้าว ของเขาและครอบครัว แต่หนทางมักไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เมื่อความระหองระแหงของครอบครัวที่ถูกเขาทิ้งไปเนิ่นนาน กลับกลายเป็นบาดแผลที่มิอาจรักษาได้ ความพยายามครั้งสุดท้ายของเขา จะเป็นผลหรือไม่

@P.PETTY

ข้อมูลอ้างอิง
https://www.imdb.com/list/ls025929604/?sort=moviemeter,asc&st_dt=&mode=detail&page=1
https://www.beartai.com/lifestyle/1224697
https://www.blockdit.com/posts/64456ca575f7c30296d0bc4f
https://www.unlockmen.com/a24-films-indy-studio-of-the-year/