ถ้าหากพูดถึงการ์ตูนลูกผู้ชายที่ยังตรึงใจมาจนถึงทุกวันนี้แม้กาลเวลาจะผ่านไป หนึ่งในนั้นจะต้องมีเรื่อง Hokuto No Ken หรือชื่อไทยที่รู้จักในชื่อ ฤทธิ์หมัดดาวเหนือ หรือ หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ ซึ่งเป็นผลงานของ บุรอนซอน และวาดโดย เท็ตสึโอะ ฮาระ ตีพิมพ์ในนิตยสารโชเนนจัมป์ เมื่อปี1984-1988 ก่อนจะถูกสร้างเป็นการ์ตูนทางทีวี และ เคยสร้างเป็นหนังมาแล้ว
เรื่องราวของ เคนชิโร่ ชายผู้มีรอยแผลเป็นรูปดาวเหนือทั้ง7 ที่อยู่ในช่วงเหตุการณ์หลังสงครามโลกครั้งที่3 ที่เต็มไปด้วยความป่าเถื่อน เขาคือความหวังเดียวที่จะกอบกู้โลกด้วยเพลงหมัด “อุดรเทวะ” พร้อมวลีอมตะที่ว่า “แกน่ะตายไปแล้ว!”
วันนี้เราจะไปดู 10 เกร็ดน่าสนใจของการ์ตูนชุดนี้กันครับ
10.) จุดเริ่มต้นของโลกหมัดดาวเหนือ
ภาพประกอบ: www.hokutodestiny.com
กว่าจะเป็นเรื่องราวที่ครองใจคนอ่านมาจนทุกวันนี้ สำหรับการ์ตูนเรื่องฤทธิ์หมัดดาวเหนือ ย้อนกลับไปเมื่อ บุรอนซอน ผู้เขียนเรื่อง ได้รับการติดต่อจากทางนิตยสารรายสัปดาห์โชเนนจัมป์ ให้มาช่วยขยายเรื่องสั้นของนักเขียนการ์ตูนที่ชื่อ เท็ตสึโอะ ฮาระ ที่ช่วงนั้นยังเป็นดาวรุ่งไฟแรง โดยให้มาเติมเต็มจนเป็นการ์ตูนเรื่องราว
พล็อตเดิมในฉบับเรื่องสั้น เกี่ยวกับตัวละครยอดนักสู้ที่ใช้วิชามวยเส้าหลินและวิชา Hokuto shinken ที่เขาคิดขึ้นสำหรับการ์ตูนของตัวเอง
แต่พอจะขยายเรื่องราวให้ยาวขึ้น บุรอนซอน จึงตัดสินใจเปลี่ยนเรื่องราว จากตัวเอกที่เป็นเด็กหนุ่มมัธยมฝึกมวยเส้าหลิน กลายเป็นชายหนุ่มที่ต้องเผชิญกับโลกในวันที่เต็มไปด้วยความโหดร้าย จนเป็นที่มาของ เคนชิโร่ ที่ทุกคนรู้จักเป็นอย่างดี
ถ้าลองพิจารณาถึงภาพรวมของการ์ตูนชุดนี้จะมีข้อสังเกตว่า บรรยากาศชวนให้นึกถึงภาพยนตร์แนวหลังวันสิ้นโลกอย่าง Mad Max ที่มี เมล กิ๊บสัน นำแสดง โดย บุโรซอน ให้สัมภาษณ์ไว้ว่าโลกของ Mad Max เป็นโลกที่เข้ากันและลงตัวเหมาะกับเรื่องราวของหมัดดาวเหนือได้เป็นอย่างดี จึงถือว่าหนังเรื่องนี้มีอิทธิพลในการสร้างจักรวาลการ์ตูนเรื่องนี้เลยทีเดียว
8.) “YOU wa SHOCK”
สิ่งหนึ่งที่ให้การ์ตูนเรื่องนี้นอกจากเนื้อหาที่ชวนติดตามอย่างเข้มข้น ตัวละครสุดเท่ อีกสิ่งที่ทำให้เป็นที่จดจำนั่นคือ เพลงประกอบการ์ตูน ที่แฟนๆรุ่นเด็กหนวดแค่ได้ยินเหมือนกลับไปเจอเพื่อนเก่าอะไรทำนองนี้ ซึ่งท่อนแรกในเพลงเปิดของเรื่องคือ “YOU wa SHOCK” ที่ไม่ว่าจะเป็นแฟนประจำหรือที่ผ่านมาดูก็จะคุ้นเนื้อเพลงท่อนฮุคนี้ได้เป็นอย่างดี
จริงๆแล้วชื่อเพลงจริงของเพลงนี้มีชื่อว่า “Ai wo Torimodose!!” หรือชื่อภาษาอังกฤษ Take back The love!! นั่นเอง ขับร้องโดยวง Crystal King วงดนตรีแนวร็อคที่ว่ากันว่าเป็นต้นแบบให้กับเพลงแนวร๊อคเข้มๆ วงแรกๆของญี่ปุ่น โดยเอกลักษณ์ที่ทำให้เพลงนี้กลายเป็นบทเพลงแห่งความทรงจำนอกจากท่อนฮุค YU wa Shock แล้ว คือการร้องประสานเสียงของสองนักร้องนำอย่าง โยชิซากิ และ เสียงประสานอันทรงพลังของ มาซายูกิ ทานากะ ที่เป็นส่วนผสมเข้ากันจนเป็นเพลงในความทรงจำนี่เอง
จากกระแสความฮิตในบ้านเกิดจนทำให้ได้มีโอกาสให้แฟนๆต่างประเทศได้เสพเรื่องราว หนึ่งในนั้นบ้านเราก็รวมอยู่ด้วยและฮิตเกินคาดจนเมื่อหลังตีพิมพ์ที่ญี่ปุ่น1ปี บ้านเราก็มีการตีพิมพ์จากหลายสำนักพิมพ์ ทำให้มีหลายชื่อไม่ว่าจะเป็น หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ บ้าง ฤทธิ์หมัดดาวเหนือ เป็นต้น
จนเมื่อ สนพ.วิบูลย์กิจที่ได้รับลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องและได้ตีพิมพ์ในชื่อ ฤทธิ์หมัดดาวเหนือ ในแบบหนังสือปกแข็ง 15 เล่มจบ แต่เมื่อเศรษฐกิจในช่วงนั้นไม่ค่อยสู้ดี จึงหยุดตีพิมพ์ในเล่มที่9 แต่เมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว จึงพิมพ์แบบเล่มปกติ 27 เล่มจบในที่สุด
6.) เคยถูกสร้างเป็นหนัง
ในปี1995 ได้มีการสร้างหนังหมัดดาวเหนือขึ้นมา แต่เป็นการสร้างของทางฝั่งอเมริกาที่ภาพรวมออกจะไม่ใช่หนังฟอร์มยักษ์ ซึ่งแม้จะเก็บรายละเอียดให้เหมือนต้นฉบับ แต่ทว่ากลับเป็นหนังที่แฟนๆโดยเฉพาะคนที่ติดตามตั้งแต่ ฉับบการ์ตูนอยากลบหายไปจากสารบบจนหมดสิ้น แต่ก็มีส่วนน้อยที่กำลังตามหาเพราะเป็นของแรร์เลยทีเดียว
5.) “เจ้าน่ะตายไปแล้ว!”
นี่คือประโยคอมตะของเคนชิโร่ ที่กลายเป็นวลีที่น่าจดจำ ซึ่งภายหลังถูกใช้ทำเป็นมีมแซวในโลกออนไลน์ ยิ่งถ้าเป็นอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ยิ่งเห็นภาพเข้าไปใหญ่
ครั้งหนึ่ง Google Assistant ระบบช่วยเหลือสุดชาญฉลาดจาก Google ที่ให้เราสามารถสั่งการสมาร์ทโฟน หรือสอบถามข้อมูลต่างๆ ได้ด้วยเสียง ของGoogle ทางสาขาญี่ปุ่น นึกสนุกเมื่อลองป้อนข้อมูลนี้เวลาใช้งาน ซึ่งระบบก็ตอบกลับ มาสุดกวนว่า “อะต๊า!อะต๊า!อะต๊า!อะต๊า!อะต๊า!อะต๊า!อะต๊า!” รัวๆ พร้อมกับส่ง emoji รูปหมัดมาให้เราด้วย
ทุกวันนี้มุขนี้ก็ยังเล่นเรื่อยๆไม่หยุด (ฮ่า!)
4.) ต้นกำเนิดนิยามการ์ตูนแนว K
ความดังของการ์ตูนหมัดดาวเหนือ ทำให้นักอ่านการ์ตูนบ้านเราได้มีการบัญญัติศัพท์คำว่า K หรือ พลัง K โดยมาจากอักษรคำแรกของชื่อเคนชิโร่ในภาษาอังกฤษ (Kenshiro) ซึ่งเป็นแนวที่เอาตัวละครในเรื่องมาเขียนล้อเลียนโดยให้มีกล้ามและหน้าตาเหมือนกับตัวละครในเรื่องฤทธิ์หมัดดาวเหนือ (รวมถึงการล้อเลียนฉากต่อสู้และแผลเป็นรูปดาวเหนือ 7 แห่ง)
3.) ฉบับอนิเมะ
ฤทธิ์หมัดดาวเหนือ ได้รับการสร้างเป็นอนิเมะ ออกอากาศทุกวันพฤหัสบดี เวลา 19.00-19.30 น. ทางสถานีฟูจิทีวี โดยแบ่งเป็น 2 ภาคด้วยกัน ภาคแรกเริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที11ตุลาคม 1984 ถึง 5 มีนาคม 1987 (ความยาว 109 ตอน) ส่วนภาคสอง เริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม 1987 ถึง 18 กุมภาพันธ์ 1988 (ความยาว 43 ตอน)
และภายหลังใด้ทำเป็นภาครีเมค และ อีกเรื่องคือ souten no ken ใช้ชื่ออังกฤษคือ fist of blue sky ใช้ชื่อไทยว่า ฤทธิ์หมัดดาวเหนือ2 เพลงหมัดฟ้าคำราม เป็นเรื่องราว ของ คาซุมิ เคนชิโร่ ซึ่งเป็นผู้สบทอดคนที่64 คนละคนกับเคน ชิโร่ในภาคหลัก
2.) การฉายในเมืองไทย
ตอนกระแสที่กำลังโด่งดังของการ์ตูนชุดนี้ ก็ได้มีโอกาสออกอากาศช่วงเสาร์-อาทิตย์ทางช่อง9 แต่ด้วยเนื้อหาที่รุนแรง จึงทำให้ทางสถานีโทรทัศน์จึงถอดการ์ตูนออกจากผังรายการ แต่ในปี2538ก็มีการฉายจนจบในที่สุด
แต่ทว่าเมื่อมีการนำภาคสองมาฉายอีกครั้งในปี2013 ก็เกิดกระแสวิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมจนกลายเป็นเรื่องที่ถกเถียง ก่อนที่ภายหลังจบลงที่ทางสถานีได้ถอดจากโปรแกรมในที่สุด
ทุกวันนี้การ์ตูนชุด ฤทธิ์หมัดดาวเหนือยังคงถูกพูดถึง และยังปรากฏให้เห็นตามสื่อต่างๆ และยังมีมีมหรือแซวให้เห็นอยู่จนทุกวันนี้ มันคืองานคลาสิคอีกเรื่องที่ขึ้นหิ้งไปแล้วเรียบร้อยหมัดดาวเหนือ
@P.PETTY
ข้อมูลประกอบ
- http://www.hokutodestiny.com/news/hara-e-buronson-svelano-la-statua-di-ken-alla-stazione-di-hokuto.html
- https://en.wikipedia.org/wiki/Fist_of_the_North_Star
- https://thepeople.co/kenshiro-fist-of-the-north-star/
- https://hokuto.fandom.com/wiki/Ai_o_Torimodose!!
- https://tech.mthai.com/software/80459.html