เคยมีคนบอกว่าจะทำหนังซัดเรื่องหนึ่งต้องใช้ทุนมากแค่ไหน ที่จะสามารถเนรมิตเรื่องราวในแบบที่ต้องการได้ ซึ่งหนังดังส่วนใหญ่ล้วนมีงบทุ่มทุนสูง จนประสบความสำเร็จ จนมีภาคต่อหรือถูกพูดถึง แต่ในขณะเดียวกันก็มีหนังอยู่หลายเรื่องที่ประสบความสำเร็จ และที่เจ๋งไปกว่านั้น มันคือหนังใช้ทุนต่ำ และด้วยข้อจำกัดหลายๆอย่าง แต่ความพยายามของผู้กำกับที่ทุ่มเทเดิมพันจนหมดตัวนี่ล่ะ ที่ทำให้หนังเรื่องนั้นๆกลายเป็นตำนานที่ถูกพูดถึงปัจจุบัน
วันนี้เลยขอคัดหนังดังที่หลายคนเคยผ่านตามาแล้ว ซึ่งหนังเหล่านี้คือหนังที่ประสบความสำเร็จ จากทุนต่ำจนเมื่อเข้าฉายสามารถกวาดรายได้มหาศาล แล้วยังกลายเป็นหนังที่ถูกพูดถึงปัจจุบัน ทั้ง 10 เรื่อง มาฝากทุกท่าน….
Halloween (1978)
แม้เพิ่งจะเข้าโรงไปสำหรับการกลับของจอมเชือดตัวพ่ออย่าง ไมเคิ่ล ไมเยอร์ จากหนังเรื่อง Halloween ถ้ามองย้อนกลับไปในวันแรกของ จอหน์ คาร์เพนเตอร์ ผู้กำกับและผู้ปลุกปั้นหนังชุดนี้มากับมือ ต้องบอกว่าเป็นการทำหนังที่มีข้อจำกัดหลายๆอย่าง
ด้วยงบทุนสร้างที่ได้รับ 325,000 ดอลล่าร์ ซึ่งส่วนหนึ่งก็ถูกหักเพราะทางผู้กำกับเลือกใช้กล้อง Panavision ที่เป็นกล้องที่ทันสมัยในเวลานั้น ทำให้เขเหลือทุนครึ่งนึง จึงทำให้พร็อบหรืออุปกรณ์โดยเฉพาะหน้ากากของพี่ไมเคิ่ล จึงไปซื้อร้านขายของแฟนซีที่อยู่ใกล้โลเคชั่นถ่ายทำ ก็ได้หน้ากากกัปตันเคิร์กจาก Startrek มาเจาะตาและพ่นสีขาวจนกลายเป็นหน้ากากอันเป็นโลโก้ของจอมเชือดไปโดยปริยาย
นอกจากนี้ จอหน์ ขอเงื่อนไขว่าเขาขอรับค่าตัวสำหรับงานนี้เพียง 10,000 ดอลล่าร์ แล้วพอหนังเขาฉายเขาขอรับส่วนแบ่งเพียง 10% จากรายได้
ท้ายที่สุด Halloween ก็ทำรายได้ถล่มทลาย 70ล้านดอลล่าร์ ที่นอกจากเจ้าตัวจะรับทรัพย์ไปเต็มๆ ก็ส่งให้ชื่อของ เจมี ลี เคอร์ติส กลายเป็นดาวจรัสแสงแห่งวงการหนังสยองขวัญไปโดยปริยาย
Evil Dead (1981)
อีกหนึ่งผลงานทุนต่ำแต่โกยรายได้ ซึ่งหนังสยองขวัญจะเข้าข่ายมากที่สุดและนี่คืออีกตัวอย่าง สำหรับ Evil Dead ผลงานสร้างชื่อของ แซม ไรมี่ ที่ทำให้เพื่อยซี้ บรู๊ซ แคมเบลล์ กลายเป็น แอช ไอค่อนในดวงใจแห่งโลกหนังสยองขวัญในที่สุด
จุดเริ่มต้นของหนังเรื่องนี้ มาจากแซมและบรู๊ซที่เป็นเพื่อนซี้ตั้งแต่เด็ก หลังจากที่พวกเขาทำหนังสั้น Within the woods ในปี 1978 ด้วยงบเพียง 1,600 ดอลล่าร์ เพื่อเอาไว้ฉายของบจากนายทุนจนได้งบเพียงพอสำหรับทำหนังเรื่อง Evil Dead
แต่ทว่างบไม่ถึงเป้าที่วางไว้ ทุกคนต่างใช้วิธีกู้เงินจากธนาคาร, ยืมเงินจากเพื่อนฝูง ซึ่งท้ายที่สุด Evil Dead ที่ปิดงบที่ 350,000 ดอลล่าร์ กลับทำรายได้ 2.4 ล้านดอลล่าร์ ก่อนจะมีทั้งภาคต่อ, รีเมค และ ทีวีซีรีส์ตามมาอีกเพียบ
Night Of The Living Dead (1968)
หนังซอมบี้ยุคใหม่ ที่ทำให้ซอมบี้กลายเป็นวัฒนป็อบ ที่ยังคงร่วมสมัยและต่อยอดจนทุกวันนี้ Night Of The Living Dead ผลงานของ จอร์จ โรเมโร่ ที่รวมกลุ่มกับเพื่อนฝูงที่ทำงานบริษัทโฆษณาลงขันคนละ 6,000 ดอลล่าร์ ก่อนจะใช้วิธีถ่ายฉากเปิดเรื่องเพื่อไว้ใช้ในการระดมทุน
การถ่ายทำโรเมโร่เลือกที่จะถ่ายทำที่เมืองพิสต์เบิร์กบ้านเกิดของตัวเอง เสื้อผ้าเข้าฉากก็ซื้อหรือยืมเอามาใช้ นักแสดงก็แคสติ้งคนรู้จักกันมาแสดง แล้วได้ตัวประกอบที่เป็นชาวบ้านในละแวกนั้นมาผลัดเปลี่ยนแสดงหมุนเวียนกันไป เทคนิคพิเศษ อย่างฉากกินตับไตไส้พุง ก็ได้เนื้อจากนายทุนที่เป็นเจ้าของร้านส่งมาให้ ใช้ซอสช็อคโกแลตเป็นเลือด แล้วถ่ายด้วยกล้องขาวดำ
จบงานที่ 114,000 ดอลล่าร์ ก่อนจะแหวกรายได้ไปถึง 30 ล้านดอลล่าร์ กลายเป็นหนังจากค่ายอิสระที่ทำรายได้สูงสุดในเวลานั้น แล้วทำให้ซอมบี้กลายเป็นแนวหนังที่ยังมีหลายคนสานต่อจนถึงทุกวันนี้ และโรเมโร่ก็ได้รับสมญานามว่า “เจ้าพ่อหนังซอมบี้”
Supersize Me (2004)
หนังประเภทเชิงสารคดี ก็ถือเป็นแนวทางของคนที่อยากทำหนังแต่งบมีไม่มาก ซึ่งเรื่องนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วกับผลงานของ มอร์แกน สปอร์ล็อค นักทำหนังสารคดีชื่อดังที่ตัดสินใจลองใช้ชีวิตด้วยเมนูซูเปอร์ไซส์ของร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดัง เป็นเวลา 3 มือภายใน 1 เดือน
ด้วยงบเพียง 65,000 ดอลล่าร์ เมื่อหนังเข้าฉายกลับทำรายได้ถล่มทลาย เกือบ 30 ล้านดอลล่าร์ ที่สำคัญทำให้ร้านฟาสต์ฟู้ดในเรื่องถึงกับยกเลิกเมนูดังกล่าว แต่ก็มีการแถลงว่ายกเลิกเพราะไม่ใช่เพราะหนังเรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีเมนูสุขภาพมากขึ้นเข้ามาในที่สุด
El Mariachi (1992)
นี่คือหนังดังที่เริ่มต้นด้วยทุนที่ต่ำที่สุดในโลกภาพยนตร์ แต่กลับทำรายได้หลายเท่าตัว สำหรับ El Mariachi ในปี 1992 ผลงานการกำกับของ โรเบิร์ต โรดิเกวซ
หนังที่มีทุนตั้งต้นเพียง 7,000 ดอลล่าร์ จากการที่โรเบิร์ตเข้าคอร์สทดลองยาในเท็กซัส และถือคติประจำตัวว่า ถ้าเริ่มทำหนังเมื่อไร ก็ต้องใช้จ่ายมากขึ้นไม่หยุด ทำให้ช่วงตลอดการถ่ายทำเขาต้องประหยัดทุกเม็ดเงินและประยุกต์การถ่ายทำตามมีตามเกิด ทั้งการใช้วิลแชร์แทนการใช้รางดอลลี่, ไม่บันทึกเสียงขณะถ่ายทำแต่ใช้วิธีลงเสียงทีหลัง, ไฟถ่ายทำใช้ไฟอ่านหนังสือตั้งโต๊ะแทนไฟกองถ่าย หรือ ทีมงานก็คือนักแสดงทั้งหมดนี่แหละใครยังไม่มีคิวก็มาช่วยงานรอเข้าฉากไปพลางๆ
ท้ายที่สุด El Mariachi ก็สร้างตำนานหนังทุนต่ำที่สุดแต่กวาดรายได้ถึง 2 ล้านดอลล่าร์ ซึ่งถือว่ามหาศาลไม่น้อยเลยทีเดียว แล้วหนังเรื่องนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของหนังชุด Desperado ผลงานสร้างชื่ออีกเรื่อของเขาในเวลาต่อมา
Saw (2004)
หนังสุดโหดของเจ้าพ่อหนังสยองยุคนี้อย่าง เจมส์ วาน ที่จับมือกับเพื่อนซี้ ลีห์ แวนเนล ที่พัฒนาบทในชื่อ Saw 0.5 จนไปเข้าตานายทุนทำให้ได้งบ 1.2 ล้านดอลล่าร์ ด้วยเรื่องราวที่สยองและนองเลือดรวมถึงไม่มีทางคาดเดาเนื้อเรื่องได้จนจบทำให้ Saw ทำรายได้ถึง 55 ล้านดอลลาร์ และกลายเป็นหนังสยองขวัญที่ได้รับการยอมรับเทียบเท่ากับเรื่องอื่นๆ แล้วยังมีภาคต่อออกมาอีกมากมาย
ที่สำคัญทำให้ เจมส์ วาน ได้มีโอกาสไปกำกับหรือเป็นผู้อำนวยการสร้างหนังสยองขวัญอีกมากมาย ที่โดดเด่นคือหนังจักรวาล Conjuring นั่นเอง
The Blair Witch Project (1999)
หนังแนว Found Footage ที่กลายเป็นกระแสในช่วงเวลานั้น ต้องยกเครติดให้กับการโปรโมทหนังที่ทำให้ใครหลายคนคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ (ฮ่า) กับเรื่องราวของกลุ่มนักศึกษาสามคนที่ไปศึกษาเรื่องราวของแม่มดแบลร์ แล้วหายไปอย่างปริศนา
ด้วยงบเพียง 60,000 ดอลล่าร์ แต่ทันทีที่หนังเข้าฉายกลับกวาดรายได้ถึง 248.6 ล้านดอลล่าร์ กลายเป็นหนังแนว Found Footage ที่ทำรายได้สูงสุด
Mad Max (1979)
หนังบู๊แอ็คชั่นสัญชาติแดนจิงโจ้ สมัย เมล กิ๊บสัน ยังไม่ดังมากนัก และยังเป็นผลงานแรกๆของ จอร์จ มิลเลอร์ กับ ไบรอน เคเนดี้ ที่เริ่มจากทุนตั้งต้นเพียง 350,000 ดอลล่าร์ พวกเขาต้องถ่ายเอกสารบทหนังแล้วหอบใส่รถไปแจก วันไหนมีฉากบู๊ก็ต้องทำความสะอาดกวาดถนน แล้วชุดหนังที่เมลใส่ก็เป็นหนังแท้เพียงคนเดียว ส่วนคนอื่นๆใส่หนังเทียมหมด แถมให้ ฮิวจ์ คียส์-เบิร์น ที่รับบทเป็นตัวร้ายของเรื่อง ที่ได้พรรคพวกที่เป็นนักแสดงด้วยกันมาเข้าฉาก แต่ด้วยที่งบมีจำกัดจึงส่งมอเตอร์ไซค์ทางรถไฟแล้วให้พวกเขาขี่มายังที่กองพร้อมแนบจดหมายถึงตำรวจเวลาเจอด่าน
ท้ายที่สุดก็ทำรายได้ไปถึง 99.75 ล้านดอลล่าร์ แจ้งเกิดกับทุกฝ่ายในที่สุด
Rocky (1976)
ถ้าจะพูดถึงหนังกีฬาที่รู้จักในอันดับต้นๆ จะต้องมีชื่อเรื่อง Rocky ผลงานแจ้งเกิดของ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน แถมเป็นหนังทำเงินในปี 1976 ซึ่งทุนที่ได้รับเพียง 1 ล้านดอลล่าร์ แม้ว่าบทจะเป็นที่ชื่นชอบ แต่สอตลโลนก็ยืนกรานว่าจะขอแสดงเอง ซึ่งท้ายสุดทาง United Artist ผู้จัดจำหน่ายในเวลานั้นยอมให้เขาแสดงนำและหั่นงบพร้อมเงื่อนไขคือ ต้องคุมค่าใช้จ่ายจนจบเรื่อง และจะไม่ได้รับค่าตัวในส่วนเขียนบท
ท้ายที่สุดเมื่อหนังเข้าฉาย กวาดรายได้ถล่มทลายถึง 225 ล้านดอลล่าร์ และข้อสำคัญหนังยังได้โบนัสด้วยสามรางวัลออสการ์ในปี 1976 แล้วทำให้ชื่อสตอลโลนกลายเป็นดาวค้างฟ้าของวงการมายามาจนถึงทุกวันนี้ แถม Rocky ยังได้สร้างอีก 5 ภาค แล้วมีภาคแยก Creed ซึ่งภาค 2 กำลังจะเข้าฉายในปีนี้
Paronomal Activity (2007)
หนังสยองขวัญแนว Found Footage ที่ตามรอยความสำเร็จของ The Blair witch Project ซึ่ง Paranormal เป็นผลงานการกำกับของผู้กำกับชาวอเมริกันเชื้อสายอิสราเอลนาม โอเรน เพลี ซึ่งด้วยทุนเพียง 15,000 ดอลล่าร์ และด้วยกลวิธีแบบบอกต่อ จนทำให้หนังได้เปิดเว็บไซต์ ติดปุ่ม Demand It เพื่อที่ว่าถ้ายอดไลค์ครบ 1 ล้าน หนังจะได้เข้าฉายในวงกว้าง
ท้ายสุดหนังได้เข้าฉายแล้วทำรายได้ถล่มทลายถึง 193.3 ล้านดอลล่าร์ ซึ่งเป็นรายได้สูงทวีคูณก็ว่าได้แถมยังมีการสร้างภาคต่ออีก 5 ภาค
และนี่คือ 10 หนังดังที่เริ่มต้นด้วยทุนต่ำ แต่ด้วยความพยายามและการนำเสนอที่สามารถชนะใจคนดูจนทำเงินได้สูงสุดและคุ้มค่าจนถูกพูดถึงทุกวันนี้นี่เอง….
@.P.PETTY
ข้อมูลประกอบ
https://screenrant.com/low-budget-movies-huge-hits-box-office/
http://www.dooddot.com/low-budget-film-that-turn-to-be-big-hit-box-office-million-dollar-movie-list/
https://petmaya.com/18-low-budget-movies
Scoop : หนังทุนต่ำ กำไรมหาศาล viewfinder fanpage
-
BEYBLADE X : 10 ตัวน่าซื้อ ของมันต้องมีในปี 2024
#beybladex #kctoysbeybladex #beybladexthailand
-
KARATE KID: LEGENDS [เรื่องย่อ / ตัวอย่าง / หนังใหม่ /2025]
#KarateKidMovie #KarateKi #เฉินหลง #JackieChan
-
20 ตัวละครจากเกมยอดนิยมที่ถูกค้นหามากที่สุดในเวปไซต์สำหรับผู้ใหญ่ 2024
#Ranking #website #Games #PC #Console