แม้เราจะจดจำภาพค่ายหนังอารมณ์ดีอย่าง GDH (GTH) ที่ครบเครื่องหลากอารมณ์ แต่ความจริงอีกอย่างที่ทำให้ GDH ถูกพูดถึงคือ ค่ายหนังที่สร้างหนังสยองขวัญจนเป็นที่จดจำให้กับวงการหนังไทยมากมายนับไม่ถ้วน แต่ละเรื่องนอกจากจะน่ากลัวแล้วยังติดตาตรึงใจจนทุกวันนี้ เพื่อต้นรับหนังสยองขวัญเรื่องใหม่ล่าสุดอย่าง 404 สุขีนิรันดร์..RUN RUN ที่จะเข้าปลายปีนี้เราจะพาย้อนดู 10 ผลงานระดับตำนานของค่ายหนังอารมณ์ดีทั้งอดีตและปัจจุบันมาฝากกันครับ

1.) ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ (2004)

นี่คือผลงานหนังสยองขวัญของไทยระดับตำนาน ที่สร้างโดยสองผู้กำกับดาวรุ่งในเวลานั้นอย่าง บรรจง ปิสัญธนะกูล และ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ ซึ่งในเวลาต่อมาคือผู้กำกับแนวหน้าของค่ายที่มีผลงานมากมาย ส่วนนักแสดงก็มี อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม และ ณัฐฐาวีรนุช ทองมี แต่คนที่น่าจดจำที่สุดคงหนีไม่พ้น เฟี้ยว์ฟ้าว สุดสวิงริงโก้ (อชิตะ สิกขมานา) ที่ตอนนั้นเป็นผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของเธออีกด้วย ที่ฝากฝีมือจนติดตาใครหลายๆคน
ตัวหนังประสบความสำเร็จทำรายได้ถล่มทลาย 100 ล้านบาท ก่อนจะถูกซื้อสิทธิ์ไปสร้างในแต่ละประเทศ ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมาตัวหนังได้นำกลับมาฉายในแบบฉบับที่คมชัดกว่าเดิม

2.) เด็กหอ (2006)

หนังสยองขวัญที่มีกลิ่นอายความเป็นหนัง Coming of Age ว่าด้วยเรื่องราวของ เด็กชายที่ถูกส่งมาเรียนหนังสือที่โรงเรียนประจำ แล้วได้เจอกับเพื่อนสนิทโดยที่ไม่รู้ว่าเพื่อนที่เขาเจอได้ตายไปนานแล้ว!? นี่คือผลงานของ ทรงยศ สุขมากอนันต์ ที่หันมาลุยเดียวทำหนังของตัวเอง ซึ่งหนังประสบความสำเร็จ จนคว้า 2รางวัลจากเทศกาลหนังเบอร์ลิน แล้วทำให้สองนักแสดงหนุ่มอย่าง แน็ค ชาลี และ ไมเคิ่ล ศิรชัช กลับมาเจอกันในหนังเรื่อง ปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น

3.) สี่แพร่ง (2008)

ถือเป็นหนังรวมหนังสั้นสายสยองขวัญที่ครบรสชาติ ถ้าให้เลือกมาเรื่องหนึ่งของหนังเรื่องนี้ ก็ต้องเป็นตอนคนกลางที่กำกับโดย บรรจง ปิสัญธนะกูล ที่สร้างมาตรฐานใหม่กับการนำความสยองขวัญมาผสานเข้ากับความฮาของเหล่าสี่ตัวละคร ที่ต่อมาจะกลายเป็นตัวละครลายเซ็นของผู้กำกับ ความน่าสนใจอีกอย่างของหนังเรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่ทางเทศกาลหนังสั้นที่ญี่ปุ่น ได้เลือกหนึ่งในสี่ตอนของสี่แพร่ง อย่าง ยันต์สั่งตาย ของ ปวีณ ภูริจิตปัญญา ส่วนหนึ่งเพราะเนื้อหามันเข้ากับบริบทที่ญี่ปุ่นโดยเฉพาะประเด็นการรังแกในโรงเรียนนั่นเอง ความสำเร็จของหนังทำให้มีการสานต่อใน ห้าแพร่ง ที่เรื่องราวเข้มข้นกว่าครั้งก่อนแล้วเป็นอีกครั้งที่ประสบความสำเร็จ แถมเป็นหนังเรื่องแรกของค่ายนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทที่ทำรายได้ 100 ล้านบาท

4.) โปรแกรมหน้าวิญญาณอาฆาต (2008)

ผลงานกำกับของ โสภณ ศักดาพิศิษฏ์ ที่เรียกว่าหากใครได้ดูคงหลอนติดตาไปอีกนานแสนาน โดยเฉพาะผีชบา ที่กลายเป็นหนึ่งในผีจากหนังไทยในความทรงจำของใครหลายๆคน และเป็นผลงานที่ เต๋อ ฉันทวิชช์ ฉีกแนวมาเล่นแนวสยองขวัญแบบจริงจัง ก่อนจะโด่งดังในบทพระเอกรอมคอมอย่าง กวน มึน โฮ

5.) ลัดดาแลนด์ (2011)

อีกหนึ่งผลงานสร้างชื่อของ โสภณ ศักดาพิศิษฏ์ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์จริง อาถรรพ์ในหมู่บ้านจัดสรร และได้นำตำนานที่เล่าเกี่ยวกับลัดดาแลนด์ มาประกอบกัน จนได้เรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่ได้มาอยู่บ้านซึ่งว่ากันว่าหมู่บ้านแห่งนี้เกิดเหตุฆาตกรรมสะเทือนขวัญ จนต้องเจอเรื่องราวไม่คาดฝันเกิดขึ้นมากมาย

6.) พี่มาก พระโขนง (2013)

นี่คือหนังระดับปรากฏการณ์ของปีนั้นก็ว่าได้ เมื่อผู้กำกับอย่าง บรรจง ปิสัญธนะกูล หยิบตำนานรักแห่งท้องทุ่งพระโขนงมาตีความใหม่ พร้อมกับนำตัวละครสี่เกลอจาก สี่แพร่งและห้าแพร่ง มาเล่าเรื่องราวในมุมมองของพี่มาก ที่รักแม่นาคหมดหัวใจซึ่งแก๊ง 4 เกลอจึงต้องช่วยเพื่อนมากเพื่อบอกความจริง ซึ่งกลายเป็นหนังที่ทำเงินสูงสุดและยังคงจารึกสถิตินี้มาจนปัจจุบัน แถมยังมีหลายประเทศซื้อสิทธิไปรีเมคอีกมากมาย

7.) ฝากไว้ในกายเธอ (2014)

ในช่วงที่กระแสซีรีส์ ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น กำลังโด่งดังทำให้สามนักแสดงวัยรุ่นจากซีรีส์อย่าง จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล, ธนภพ ลีรัตนขจร และ สุภัสสรา ธนชาต มาแสดงในหนังสยองขวัญที่ชื่อได้มาจากชื่อเพลงของ เบิร์ด ธงไชย แต่บิดเรื่องราวแนวสยองขวัญเมื่อตัวเอกที่รับรู้การเสียชีวิตของเพื่อนสาวที่เป็นแฟนของคู่แข่งตัวเอง แถมต้องเจอเรื่องราวแปลกๆเหมือนมีใครบางคนกำลังติดตามเขา แล้วเป็นหนังไม่กี่เรื่องที่กล้าแหวกขนบเรื่องราว

8.) ร่างทรง (2021)

ผลงานแนวสยองขวัญที่ทางค่ายร่วมทุนสร้างกับเกาหลีใต้ว่าด้วยเรื่องราว ของครอบครัวหนึ่งในภาคอีสานของไทยที่ได้สืบเชื้อสายร่างทรง “เทพบาหยัน” มาหลายชั่วอายุคน ซึ่งเชื่อกันว่า จะเลือกแต่ร่างของผู้หญิง เพื่อสืบทอดทายาทโดยมี ‘นิ่ม’ เป็นผู้สืบทอดสายเลือดร่างทรงคนปัจจุบัน ก่อนที่จะพบว่าเริ่มมีอาการแปลกประหลาดหลายอย่าง เกิดขึ้นกับ ‘มิ้ง’ หลานสาวคนเดียวของตระกูล ที่คาดกันว่าน่าจะถูกรับเลือก ให้เป็นทายาทร่างทรงคนต่อไป

ตัวหนังเป็นที่ถูกพูดถึงแถมได้เป็นตัวแทนหนังไทยเข้าชิงรางวัลออสการ์ ในสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศ และมีข่าวว่า ภาคต่อกำลังอยู่ในช่วงพัฒนาอยู่

9.) เพื่อนที่ระลึก (2017)

แม้จะเป็นหนังสยองขวัญแต่ฉากหลังของเรื่องราวน่าสนใจมาก เพราะว่านี่คิหนังสยองขวัญที่มีฉากหลังสะท้อนภาพจากเหตุการณ์วิกฤตต้มยำกุ้งปี 40 โดยมีฉากหลังคือตึกสาธรยูนิค ที่เปรียบเสมือนอนุสรณ์ในช่วงเวลาที่เจ็บปวดที่เคยเกิดขึ้นผสานกับเรื่องราวน่ากลัวได้อย่างลงตัว

10.) บ้านเช่าบูชายัญ (2023)

หนังว่าด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับคู่สามี-ภรรยาที่ได้ให้คนมาเช่าบ้านของพวกเขาก่อนที่ตัวภรรยาจะพบว่าผู้เช่าของพวกเขามีกำลังปกปิดบางอย่างอยู่และสามีของเธอก็มีท่าทีที่ดูแปลกไป โดยหนังมีเค้าโรงจากเหตุการณ์จริงกรณีที่ผู้ให้เช่าบ้านมีการแจ้งความถึงพฤติกรรมแปลก ๆ ของผู้เช่าบ้าน ทั้งการขโมยทรัพย์สิน ทำลายทรัพย์สิน หรือเช่าบ้านเพื่อก่อคดีฆาตกรรม

ทั้งหมดนี้คือ 10 ผลงานหนังสยองขวัญจากค่ายหนังอารมณ์ดี GDH (GTH) ที่นำมาฝากกัน ก่อนจะไปสนุกกับภาพยนตร์สยองขวัญสุดฮาอย่าง 404 สุขีนิรันดร์..RUN RUN ในปลายปีนี้ครับ

@P.PETTY