ในยุคที่มีการพัฒนากราฟฟิกที่สูงจนเกือบจะเอาคนจริงๆมาเล่น มันเป็นการเปิดจินตนาการของเหล่าผู้สร้างเกมได้อย่างชัดเจนมากขึ้น บางเกมก็ถ่ายทอดความสยองขวัญได้สมจริง บางเกมก็ถ่ายทอดความสัมพันธ์ตัวละครผ่านทางการแสดงอารมณ์ สีหน้าท่าทางได้อย่างเหลือเชื่อราวกับดูภาพยนตร์เลยก็ว่าได้

แม้เทคโนโลยีการทำเกมจะก้าวไปไกลแค่ไหน แต่สิ่งหนึ่งที่เรายังคงพบเจออยู่เสมอๆ นั่นก็คือ “พล๊อตเรื่อง” หรือบรรยากาศโดยรวมของเนื้อหาที่จะกำหนดทิศทางการเล่าเรื่องของเกมนั้นๆ ว่าเกมๆนึงมันจะเกี่ยวกับอะไร ใครเป็นพระเอก ทำไมถึงเป็นแบบนั้น และมันอาจจะส่งผลไปถึงเกมเพลย์ได้เช่นกัน

และนี่คือ “10 พล๊อตยอดฮิตที่มักเอามาทำเป็นเกม”ที่เหล่าเกมเมอร์ต้องเจอชนิดที่เรียกว่า แทบจะเบื่อหน้ากันเลย เอาล่ะ มาดูกันดีกว่า!

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

10.เดินหนีผีในบ้านตัวเอง พร้อมอาการความจำเสื่อม

จากความสำเร็จของ “P.T.” หรือ “Playable Teaser” ของเกม Silent Hill ภาคใหม่ โดยฝีมือ “ฮิเดโอะ โคจิม่า” ผู้สร้าง Metal Gear และทีมงานดีไซน์โดย “จุนจิ อิโต้” เจ้าพ่อการ์ตูนผีญี่ปุ่น รวมไปถึงทีมงานขั้นเทพยันผู้กำกับอย่าง “กิลเยโม เดลโทโร” และ “นอร์แมน รีดัส” ที่มาเป็นต้นแบบ CG ตัวเอกของเดโม่เกมดังกล่าว มันจึงออกมาสุดยอด แปลกใหม่ สยองได้ใจ และเล่นกับความไม่รู้ของตัวละครในเกม แต่น่าเสียดาย ที่ตัวเกมไม่ได้ไปต่อ และปิดตัวโปรเจคท์ลง

แน่นอนว่า มันเป็นที่พูดถึงมาก ก็เลยมีค่ายเกมอินดี้สารพัดเจ้าที่พัฒนาเกมโดยใช้แนวทางของ P.T มาทำเกมของตัวเอง ดีมั่ง แป้กมั่ง แต่โดยรวม “ต้องหนีผีในบ้านตัวเอง” และ “ต้องตื่นมาแบบงงๆ จำอะไรไม่ได้เลยว่าเมื่อคืนไปทำอะไรมา” ไม่งั้นจะไม่ครบสูตรสำเร็จดังกล่าว…

เกมที่เข้าข่าย : Arison Road / Strange Night / Layers of Fear / The Park

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

9.หลงทางหลังจากเกิดอุบัติเหตุ
อันนี้เรานับเรื่องการหลงป่า หลงในยานอวกาศ หลงบนดาวเคราะห์นอกโลก หลงในโลกแห่งจิตใจ และสารพัดหลงที่ทำให้เราต้องวิ่งวนไปๆมาๆแบบงงๆไม่รู้เรื่องด้วยนะ มันก็จะเป็นการอัพสเกลจากเดินหลงในบ้าน มาเป็นเมือง หรือสถานที่ๆดูไม่น่าเดินเท่าไหร่ ซึ่งการหลงทางประเภทนี้ มักจะนำมาใช้ใน Theme ของเกมสยองขวัญซะเยอะ เพราะยิ่งเราไม่รู้ ยิ่งมืด เราก็ยิ่งกลัว จะด้วยการเดินเข้าไปเอง , ขับรถแล้วอยู่ๆรถเสีย , เครื่องบินตก แล้วดันรอดมาได้ , ถูกส่งมายังยานอวกาศที่เต็มไปด้วยอสูรนรกลัทธิอุบาทว์หรือจะยังไงก็สุดแท้แต่ มันก็คืออีกหนึ่งพล๊อตยอดนิยมที่มักจะเอามาทำเกมเป็นระยะๆ

เกมที่เข้าข่าย : Outlast / Tomb Rider (2012) / Silent Hill / The Forest / Dead Space / Farcry 2-3 เป็นต้น

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

8.ตามหาลูกเมีย คนรัก หรือล้างแค้นให้ครอบครัว
นี่ก็เป้นอีกพล๊อตยอดนิยม กับการจองเวรแบบถึงลูกถึงคน ส่วนใหญ่มักจะมาในแนวแอคชั่นบ้าพลังจัดเต็มไปเลย ตัวละครพระเอกในเกมพวกนี้จะพกพาความดราม่าเต็มพิกัด และบางเกมอาจจะนำไปสู่บทสรุปเรื่องราวที่หมองหม่น หรือแฮปปี้ในมุมของตัวละครนั้นๆ แต่ไม่โอเคสำหรับคนที่ติดตามเนื้อเรื่องก็ได้เช่นกัน

เกมที่เข้าข่าย : MAX PAYNE / Red Dead Redemption / Prorotype 2 / Farcry 3 / The Evil Within 2 เป็นต้น

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

7.พระเอกประสาทหลอนเป็นต้นเหตุซะเอง
พล๊อตแนวๆนี้สามารถหาได้จากเกมพวก Silent Hill ภาคเสริม หรือเกมสยองขวัญซะเป็นส่วนมากตัวละครที่เราเล่นจะจำอะไรไม่ได้ หรือไม่ก็เป็นโรคจิต บางทีเสพยาจนเห็นภาพหลอน เห็นคนเป็นมอนสเตอร์ ต้องออกตามหาความจริงว่าเราไปทำอะไรมา แก้ปริศนาโน่นนี่นั่นจนพบว่า สาเหตุ ต้นตอของเรื่องก็คือ “ตัวเรา” นั่นเอง พล็อตนี้หลอกคนง่าย จึงค่อนข้างเป็นที่นิยม จะว่าไป มันก็เป็นสับเซตที่แตกยอดมาจากข้อที่ 10 อีกทีนึงนี่ละ

เกมที่เข้าข่าย : Silent Hill Homecoming / Silent Hill 2 / Amnesia / Call of Duty Black Ops 3 เป็นต้น

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

6.มีเอเลี่ยน / ทัพอสูรบุกโลก
แค่พล๊อต ก็บ่งบอกแล้วว่าแอคชั่นจัดๆอีกหนึ่งแนวอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยความน่าสะพรึงของเหล่าสิ่งมีชีวิตต่างดาว อสูรต่างมิติ ที่มักจะมาแบบไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไหร่นัก แต่ตัวเกมไม่ส่งคนธรรมดาไปรับมือพวกมันแน่นอน ต้องส่งตัวเอกที่มีความสามารถระดับ “ยอดมนุษย์” มารับมือพวกมัน ไม่ว่าจะชุดเกราะไฮเทค , อาวุธปืนนับสิบกระบอก , ความเก๋าเจ๋งของตัวละครไม่กลัวตาย หรืออาวุธดาบ เวทมนตร์อันทรงพลังในกรณีรับมือกับเหล่าอสูรจากเกมแนวแฟนตาซี

เกมที่เข้าข่าย : Contra / Final Fantasy / Crysis / Serious Sam / PREY (เวอร์ชั่นแรก) / DOOM / Super Robot Wars OG เป็นต้น

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

5.เกิดเหตุกองทัพหุ่นยนต์อาละวาด
นี่ก็มาแนวไซไฟจัดๆเลย กับผลพวงความผิดพลาดของเหล่านักวิทยาศาสตร์ (หรือบางทีก็จงใจสร้าง)กับการรุกรานเมืองของกองทัพหุ่นยนต์สารพัดไซส์เล็กใหญ่ บางทีก็เป็นหุ่นที่มี AI ออกอาละวาด รึไม่ก็บางที ก็เป็นวายร้ายขับหุ่นอาละวาดซะเอง แน่นอนว่าตัวเอกของเรา ก็มักจะมีความสามารถในการรับมือกับพวกหุ่นยนต์เหล่านี้ ทั้งมาแบบคนขับหุ่น หรือมาแบบหุ่นยนต์ฝ่ายดีที่ได้รับการดัดแปลง

เกมที่เข้าข่าย : Rockman / Rockman X / THE SURGE / Super Robot Wars OG / Armoured Core / Front Mission / Bionic Commando / Terminator / Vanquish / Horizon Zero Dawn เป็นต้น

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

4.ต่อสู้กับองค์กรวายร้าย / ลัทธิประหลาดๆ
เป็นพล๊อตที่ถือเป็นใจความสำคัญของหลายๆเกม ก่อนที่จะแตกแยกย่อยไปเป็นการล้างแค้น การทดลองสร้างหุ่นยนต์ ซอมบี้โน่นนี่นั่นสารพัด ลัทธิบูชาเทพสุดเพี้ยน แต่องค์กรพวกนี้มีอยู่สองอย่างคือ “ล่มสลายในเกมภาคเดียว” หรือ “อยู่ยืนยงเป็นไม้เบื่อไม้เมาของพระเอก” ให้เหล่านักพัฒนาเกมได้เข็นภาคต่อ หลอกกินตังค์คนเล่นไปเรื่อยๆ…

เกมที่เข้าข่าย : Resident Evil / The Evil Within / F.E.A.R. / Final Fantasy VII / Silent Hill 3 / Fatal Frame เป็นต้น

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

3.เมื่ออเมริกาโดนบุก
พล๊อตนี้ ที่เอาให้เห็นภาพชัดเจนที่สุด ก็เกมซีรีส์ Call of Duty : Modern Warfare ที่ปูเรื่องราวของสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่เล่าเรื่องช่วงกองทัพรัสเซียบุกอเมริกาอย่างบ้าคลั่ง สร้างความดราม่าสไตล์อวยอเมริกันให้กับตัวเกมเข้าไปอีก หรือแม้แต่เกม Homefront ที่ใช้พล๊อตนี้แต่เปลี่ยนเป็นกองกำลังเกาหลีเหนือแทน เราจะได้เห็นสถานที่สำคัญอย่าง เทพีเสรีภาพ สะพาน Golden Gate หรือทำเนียบขาวโดนถล่มยับ ซ้ำๆซากๆอยู่ช่วงหนึ่ง ยังไม่ได้กล่าวถึงพวกเอเลี่ยนบุกโลก หรืออสูรต่างมิติบุกนะ เพราะที่ๆแรกที่มันจะบุกก็คือ อเมริกา นี่แหละ!!

เกมที่เข้าข่าย : Wolfenstein: The New Order / COD MW 2 / Homefront / Crysis 3 / World in Conflict / Turning Point: Fall of Liberty / Resistance 2 / Freedom Fighters / Red Alert 2 เป็นต้น

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

2.ซอมบี้ครองโลก

นี่คือแนวที่จัดว่าเกร่อสุดๆ เพราะมันแทบจะสามารถเอาทุกพล๊อตมาเชื่อมโยงกันได้ เช่น “เมื่อซอมบี้อาละวาดในอเมริกาอย่างหนัก ทำให้โลกถึงคราวล่มสลาย” และแตกยอดไปทำเกมที่มีพล๊อตย่อยๆอื่นๆอีกมากมาย เป็นได้หลายแนว เช่นดราม่าหนักชีวิต , สยองขวัญ , แอคชั่นบ้าพลัง , วางแผนจัดการเมือง ,เ อาตัวรอด ไปจนถึงแนวตลกบ้าบอไร้สาระ หรือเกมน่ารักๆเล่นง่ายๆบนมือถือก็มีออกมาให้เห็นกัน

เกมที่เข้าข่าย : Dead Rising / Dead Alliance / Resident Evil / Dead Island / State of Decay / Dying Light / Plants vs Zombies / Left 4 Dead / The Walking Dead/ The Last of Us / Arizona Sunshine เป็นต้น

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

1.โลกยุคเสื่อมสลาย
หรือเรียกกันแบบเก๋ไก๋ว่า Distopia ส่วนใหญ่สาเหตุโลกเข้าใกล้ความวิบัตินี้เกิดขึ้นจากมนุษย์กันเองมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นสงครามโลก,สงครามนิวเคลียร์,เชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ส่วนมากเป็นเกมที่มีฉากหลังเป็นโลกในอนาคต ซึ่งหลายๆเกมพยายามนำเสนองานภาพที่สวยงาม และสื่อให้เห็นว่าโลกที่มนุษย์ไม่ได้เป็นสิ่งที่ครองโลกแล้วจะเป็นยังไง เราจะเห็นซากไม้เลื้อยขึ้นตามตึก หรือซากปรักหักพังจากเหตุการณ์ในอดีตของเกมนั้นๆ เสน่ห์ของเกมแนวนี้คือ เกมจะพยายามเล่าเรื่องราวการเอาตัวรอดของตัวเอก และปริศนาที่ทำให้โลกอยู่ในสภาพเช่นนี้เป็นจุดขาย

เกมที่เข้าข่าย : Fallout / The Last of US / State of Decay / Day Gone / Neir Automata / Horizon Zero Dawn / Absolver / THE SURGE เป็นต้น

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

และนี่คือ “10 พล๊อตยอดฮิตที่มักเอามาทำเป็นเกม” ตราบใดที่เรายังคงเล่นเกม เราก็จะเจอพล๊อตแบบนี้ยาวๆจนกว่าเราๆท่านๆจะไม่มีแรงจับจอยเกมกันเลย แต่ไม่ใช่ว่าแค่พล๊อตเท่านั้นที่จะทำให้เกมออกมาดี มันอยู่ที่การเล่าเรื่อง และเกมเพลย์ด้วยเช่นกัน เพราะเกมส่วนใหญ่ที่หยิบยกมาเป็นตัวอย่าง ก็จัดว่าเป็นเกมสนุก เล่าเรื่องดี แม้พล๊อตจะมีความคล้าย (บางทีก็ซ้ำกันตรงๆ) แต่เชื่อว่าแต่ละเกมก็มีจุดขายที่ต่างกันอยู่ดี…

เพื่อนๆมีพล๊อตเกมสนุกๆที่อยากแนะนำ ก็ลองแสดงความเห็นกันเข้ามาได้นะครับ ทั้งหน้าแฟนเพจ และคอมเม้นท์ใต้บทความนี้ก็ได้ครับ

แอดมิน Ak47