เนื่องจากปีนี้ครบรอบ 30ปีของหนึ่งในขบวนการซูเปอร์เซ็นไต ที่ยังคงประทับใจและเป็นที่กล่าวขานจนปัจจุบัน นั่นคือขบวนการวิหคสายฟ้าเจ็ทแมน (Choujin Sentai Jetman) ขบวนการลำดับที่ 15 ที่ได้ชื่อว่าฉีกสูตรสำเร็จทุกอย่าง ทั้งเรื่องราวดราม่าเฉือนคมทั้งฝั่งเจ็ทแมนและไวรั่มหรือจะเป็นรักสามเส้า รวมถึงความขัดแย้งที่ต่างคนต่างที่มาก่อนจะรวมทีมปกป้องโลก หลังจากที่ฉายออกไปก็สร้างกระแสทั้งในญี่ปุ่นและบ้านเรา
หนึ่งในความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของขบวนการห้าสีคือการมาของ พี่แร้งดำ หรือ ยูกิ ไก หนุ่มเพลย์บอย ที่เปรียบเสมือนคู่ขนานของ เท็นโด ริว เหยี่ยวแดง ที่มีความเป็นผู้นำ เขากลายเป็นหนึ่งในตัวละครที่น่าจดจำถึงขนาดว่า เวลาเล่นเป็นเจ็ทแมน เด็กๆอยากจะเป็นตัวสีดำเพราะมันเท่มาก แถมทำให้เหล่าบรรดาแม่ๆต้องมานั่งดูเป็นเพื่อนลูกชายเมื่อเจ็ทแมนฉาย งานนี้ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
วันนี้เราจะพาไปดู 10 เรื่องราวที่น่าสนใจของชายที่ชื่อว่า ยูกิ ไก หรือพี่แร้งดำสุดเท่จากเจ็ทแมน เผื่อแฟนๆที่เพิ่งจะติดตามเรื่องราวขบวนการห้าสีได้รู้จักมากขึ้นครับ…
1.จุดเริ่มต้น
ก่อนที่เขาจะโด่งดังในฐานะสมาชิกเจ็ทแมน โทชิฮิเดะ วาคามัทสึ ชายหนุ่มจาก จ.มิยาซากิ ที่มาตามหาฝันในโตเกียว ด้วยความที่ชื่นชอบศาสตร์ภาพยนตร์และการละคร จึงเลือกที่จะเรียนสายนี้ทำให้ได้เรียนรู้ทุกศาสตร์ทั้งสายการแสดงและการกำกับหนัง
พอเรียนจบเขาเริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงในฐานะนักแสดงละครเวที จนวันหนึ่งเขาก็ได้ข่าวว่า โตเอะ สตูดิโอชื่อดังกำลังจะสร้างหนังขบวนการห้าสีเรื่องใหม่และจะมีการคัดเลือกนักแสดง เขาจึงตัดสินใจไปลองแคสบท โดยเขาและผู้ออดิชั่นจะได้บทขบวนการก่อนหน้านี้ (ขบวนการไฟว์แมน) ซึ่งเขาได้บทตัวร้ายอย่าง ขุนพลเชบาเลียร์ จนทำให้เขานึกว่าจะได้เล่นเป็นตัวร้าย แต่ท้ายสุดเขาก็ได้รับเลือกให้มาสวมบท ยูกิ ไก สมาชิกขบวนการห้าสีเจ็ทแมน ที่เรารู้จักในวันนี้นี่เอง
2.ชายผู้แหวกขนบของขบวนการห้าสี
ถ้าเราลองย้อนกลับไปก่อนหน้าขบวนการเจ็ทแมน คาแร็คเตอร์ของเหล่าฮีโร่5สีส่วนใหญ่ จะต้องมีคาแร็คเตอร์ที่เข้าถึงเด็กๆ จนมาถึงเรื่องนี้ที่ทางผู้สร้างและทีมงานตัดสินใจลองแหวกขนบหรือลองใส่ลูกเล่นใหม่ๆที่เหล่าขบวนการอื่นๆยังไม่เคยทำ มาก่อน ผลที่ได้คือเรื่องราวของเจ็ทแมนจึงเป็นโทนดราม่าจริงจัง มีรักสามเส้า ความขัดแย้งของระหว่างสมาชิกในกลุ่ม รวมถึงตัวละครของยูกิ ไก ก็เป็นหนึ่งในการแหวกขนบครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
ยูกิ ไก คือสมาชิกเจ็ทแมนที่เผลอได้รับรังสีเบิร์ดนิค ทำให้เขาต้องเข้าร่วมขบวนการเจ็ทแมน แบบไม่ค่อยเต็มใจ เท่าไรนัก เพราะว่า เขาชอบใช้ชีวิตหนุ่มเจ้าสำราญ เป็นนักดนตรี และเป็นคนที่ไม่ชอบให้ใครออกคำสั่ง ทำให้เราได้เห็นช่วงแรกของเรื่องราวในภาพหนุ่มเจ้าเสน่ห์ ที่ไม่ค่อยจะสนใจในภารกิจของเจ็ทแมน แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป เขาเองคือหนึ่งสมาชิกคนสำคัญที่พร้อมจะลุยได้ทุกเวลา
3.ความแตกต่างคู่ขนานที่มาบรรจบ
ถ้า เท็นโด ริว คือ ตัวแทนของความเป็นผู้นำ เสียสละเพื่อส่วนรวม เป็นแบบอย่างที่หลายคนอยากจะเป็น
ทางด้าน ยูกิ ไก ก็คงจะตรงข้ามกับริวแทบทุกอย่าง ทั้งมองตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง ไม่สนว่าใครจะเป็นยังไง ซึ่งทั้งสองคนจึงเปรียบเหมือนเส้นคู่ขนานที่ต่างกันและมาบรรจบกัน โดยเฉพาะฉากที่ทั้งคู่ทะเลาะกัน ทั้งเรื่องภารกิจหรือเรื่องรักสามเส้าที่มีต่อ คาโอริ หรือ ไวท์สวอน เป็นเส้นเรื่องที่หลายคนรอดูยิ่งกว่ารอดูตอนสู้ปีศาจอีกด้วยซ้ำไป แต่มันก็คือเสน่ห์ของขบวนการเจ็ทแมนที่ไม่สามารถหาได้จากเรื่องอื่นเลยทีเดียว
4.“ถ้าเกิดเร็วกว่านี้ 10ปี คงชวนเดทไปแล้ว”
แม้ว่า ไก จะเป็นหนุ่มเพลย์บอย ที่จีบสาวไปทั่ว แต่มีครั้งหนึ่งที่เขาเกือบจะเป็นหนุ่มโลลิเข้าซะแล้ว เพราะว่าในตอนที่ 20 ที่ต้องเจอกับปีศาจเครื่องดูดฝุ่นแห่งความรัก ที่จะดูดความรักของหญิงสาวจนเย็นชา ซึ่งทำให้เขาได้รู้จัก มิจิรุ เด็กสาวที่ขอให้เขาช่วยพี่สาวที่โดนปีศาจดูดความรักจนล้มเลิกงานแต่ง แต่เมื่อมิจิรุถูกปีศาจดูดพลังความรัก ทำให้ยูกิ ไก จึงต้องสู้กับปีศาจก่อนที่พลังความรักจะกลับคืนสู่หญิงสาวทุกคนรวมถึงพี่สาวของมิจิรุ โดยที่ตอนจบไกหยอดมุขใส่ว่า “ถ้าหากเกิดเร็วกว่านี้ 10ปี คงชวนเดทไปแล้ว” (แหม่! พี่ไกของเรา ฮ่าๆ)
**เกร็ดเล็กๆ** ผู้รับบทมิจิรุ คือ นากิโกะ โทโนะ (Nagigo Tono)ที่ในเวลาต่อมาเป็นนักแสดงมากฝีมือ (ปัจจุบัน คุณพี่อายุหลัก4x แล้ว) ที่ฝากผลงานทั้งหนังและละครมากมาย สำหรับใน Ep นี้ถือเป็นผลงานการแสดงเรื่องแรกๆของเธอนั่นเอง
5. บางทีเขาก็เป็นหนุ่มขี้เหงา!?
แม้ว่าอุปนิสัยของยูกิ ไก ที่เรารู้จักคือ เจ้าสำอาง โผงผาง ไม่แคร์คนอื่นว่าจะเป็นยังไง ปากร้ายไม่ถนอมน้ำใจ แต่ใครจะไปรู้ว่าหนุ่มเจ้าสำอางจะมีส่วนลึกที่แทบจะไม่ได้เห็นเลยเลยในตัวเขา
แต่ในตอนที่ 11 ซึ่งเป็นตอนปีศาลตู้กดเครื่องดื่ม ที่เหล่าไวรั่มอยากเล่นอะไรสนุกๆฆ่าเวลา เพราะทันทีที่ทั้งห้าคนดื่มน้ำผลไม้เข้าไป นิสัยที่ไม่ค่อยได้เห็นกลับขยายกว้าง จนทำให้แต่ละคนแสดงกริยาเหล่านั้นออกมาอย่าง ริว ที่กลับกลายเป็นคนขี้เกียจ, คาโอริ ที่ดูหยิ่งยโสและมีความเป็นลูกคุณหนูมากกว่าเดิม หรือไรตะ ที่ปกติเป็นคนสุภาพก็ดูมีนิสัยเหมือน ไก ส่วนตัวเขากลับกลายเป็นคนดีขี้เหงาซะงั้น (ฮ่าๆ)
6.เรื่องราวของตอนที่17
ในตอนที่คุณ โทชิฮิเดะ วาคามัทสึ พูดถึงเรื่องราวสมัยที่ถ่ายเจ็ทแมน มีฉากหนึ่งที่เขาได้มีโอกาสเติมเต็มตัวละครของไก นั่นเพราะว่าทางผู้กำกับและทีมงานเปิดโอกาสให้เขาเสนอไอเดียออกมาได้เต็มที่ เพื่อถ่ายทอดบทออกมาได้สมบูรณ์หนึ่งในนั้นคือฉากตอนที่ไกและคาโอริติดอยู่ในลิฟต์ ก่อนที่ต่างฝ่ายต่างเปิดใจความรักพร้อมกับประโยคที่ไกพูดออกมาว่า “เกลียดฉันอีกสิ เกลียดฉันให้สุดๆไปเลย…ดีกว่าบอกว่าไม่รัก แต่ก็ไม่เกลียด”
7. เกรย์ คู่ปรับที่น่าจดจำ
ในเรื่องราวของเจ็ทแมน ภาพจำที่คนจะนึกถึงส่วนใหญ่คือ ริว และ ไกจะต้องทะเลาะกันจนคนดูลุ้นว่าจะตีกันอีกทีวันไหน แต่ความจริงแล้วก็มีอีกคนหนึ่งที่สู้กับไกชนิดถึงเลือดถึงเนื้อก็ว่าได้ นั่นคือ เกรย์ นักสู้มาดสุขุมแห่งเหล่าร้ายสุกโหดอย่างไวรั่ม ซึ่งในตอนที่ 50 เกรย์ และ ไก ขอสู้แบบไม่มีอะไรจะต้องเสียอีกแล้ว ทำให้ฉากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายของทั้งคู่กลายเป็นตำนาน เช่นเดียวกับตัวละครเกรย์ที่ถูกจดจำในฐานะวายร้ายสุดเท่ของเจ็ทแมนจนทุกวันนี้
8. ตัวละครเพียงคนเดียวที่สามารถจัดการบอสใหญ่ของเรื่อง
ในตอนที่ 51 ที่เหล่าเจ็ทแมนต้องเผชิญกับบอสใหญ่ตัวสำคัญของเรื่องอย่าง ราดิเก้ ที่อัพเกรดร่างขั้นสูงสุด จนทำให้เหล่าเจ็ทแมนต้องใช้หุ่นถึงสามตัวก็ยังไม่สามารถสยบลงได้ แล้วตอนนั้นเอง ริว ที่เห็นจุดอ่อนของมัน จึงขอให้แยกหุ่นทั้งสองตัวออก แล้วสบโอกาสจับล็อคราดิเก้ข้างหลัง แล้วให้ไกใช้ดาบแทงทะลุร่าง แม้ว่าทุกคนมองว่าถ้าทำแบบนั้นริวก็จะโดนไปด้วย ในที่สุดไกที่เชื่อมั่นในตัวริวจึงยอมใช้ดาบแทงลงไปขั้วหัวใจของราดิเกะลง ปิดฉากแผนครองโลกของเหล่าไวรั่มได้สำเร็จ เรียกว่าน่าจะเป็นตัวละครเพียงคนเดียวที่ไม่ใช่ตัวสีแดงเป็นผู้ปลิดชีพบอสใหญ่
9. ว่าด้วยเรื่องตอนจบในตำนาน
หากใครที่เป็นขบวนการห้าสีจะเข้าใจและตรึงใจตอนนี้มากที่สุด ตอนจบเล่าถึง3ปีที่พวกเขากลับเป็นคนธรรมดา แยกย้ายไปตามวิถีชีวิตของตัวเอง แล้วได้มาเจอกันในงานแต่งงานของริวและคาโอริ ซึ่ง ไก กำลังเลือกช่อดอกไม้เพื่อเป็นของขวัญแสดงความยินดีของทั้งคู่ ทว่าเขาก็เห็นโจรกระชากกระเป๋า จึงไปจัดการแต่พลาดถูกแทง แต่แทนที่จะไปโรงพยาบาลเขากลับไปร่วมแสดงความยินดี ก่อนจะสิ้นลมหายใจตรงม้านั่ง เรียกว่าเป็นหนึ่งในฉากที่น่าจดจำที่สุดนับตั้งแต่มีขบวนการห้าสีเกิดขึ้น
“โทชิฮิเดะ วาคามัทสึ” ผู้ที่รับบทเป็น ยูกิ ไก เคยให้สัมภาษณ์ไว้ในช่องยูทูปช่องหนึ่งเกี่ยวกับตอนจบนี้ว่า เป็นความต้องการของเขาโดยตรง ซึ่งคนที่รับบทเป็นโจรวิ่งราวก็คือสตันท์แมนในชุดแบล็คคอนดอร์ ด้วยเหตุผลว่า ถ้าจะปิดตำนานก็ขอให้เป็นเขาหรือคนที่เกี่ยวข้องได้เป็นคนปิดฉากโดยสมบูรณ์
10.การกลับมาในรอบ 19ปี ของยูกิ ไก
ขบวนการโจรสลัดอวกาศโกไคเจอร์ ขบวนการลำดับที่35 แล้วยังเป็นการฉลองครบรอบ35ปีของ ซีรีส์ขบวนการนักสู้ 5 สี ซึ่งในตอนที่ 28 ที่ถือว่าเป็นการกลับมาในรอบ19ปีของชายที่ชื่อว่า ยูกิ ไก ซึ่งมาในฐานะวิญญาณที่มาเที่ยวบนโลกมนุษย์ พอได้เจอกับ กัปตันมาร์เวลัส หัวหน้าโจรสลัดของโกไคเจอร์ที่กำลังสูญเสียความั่นใจ ซึ่งการมาของไกไม่ใช่แค่มอบบทเรียนของการเป็นนักสู้ขบวนการห้าสีเท่านั้น แต่เขามาปกป้องเพื่อนๆที่มีชีวิตสุขสบายไม่ต้องกลับมาสู้อีก เรียกว่ายอมสละเวลาแสนสนุกเพื่อปกป้องโลกก่อนที่เขาจะฝากความหวังกับขบวนการโกไคเจอร์ปกป้องโลกใบนี้ต่อไป
งานนี้คุณ โทชิฮิเดะ วาคามัทสึ กลับมาสวมบทสร้างชื่อของตัวเองในรอบ 19ปี แล้วยังดึงสตั๊นท์แมนที่ร่วมงานประจำกลับมาเติมเต็มให้เจ็ทแมนสมบูรณ์อีกครั้ง แถมมือเขียนบทในตอนนี้ ก็คือคนที่เคยเขียนบทให้กับเจ็ทแมนด้วยเช่นกัน
ทั้งหมดคือ 10 เรื่องราวที่น่าสนใจของชายที่ชื่อ ยูกิ ไก หรือพี่แร้งดำจากขบวนการวิหคสายฟ้าเจ็ทแมน ที่มาเล่าสู่กันฟังในวันนี้ครับ…
@P.PETTY
ข้อมูลอ้างอิง
- https://en.wikipedia.org/wiki/Toshihide_Wakamatsu
- http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2008/07/A6776387/A6776387.html
- https://thepeople.co/yuki-gai-jetman/
- https://www.facebook.com/tongbravertb