Long Take คือหนึ่งในเทคนิคของผู้กำกับหนังที่ต้องการจะเล่าเรื่องราวด้วยการถ่ายทำแบบต่อเนื่องไม่มีหยุดหรือสั่งคัท ซึ่งจะต้องสัมพันธ์กับนักแสดงที่ต้องแม่นบทพอสมควรและตากล้องที่ต้องคุมจังหวะการเคลื่อนไหวให้สอดคล้องกับทิศทางกล้องเพื่อทำให้ฉากเหล่านี้ เหมือนคนดูได้ร่วมลุ้นเหตุการณ์ไปด้วยกัน ถือเป็นหนึ่งในรูปแบบการถ่ายทำที่วัดใจนักแสดงและทีมงาน เพราะว่าจะพลาดไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
ถ้าลองดูหนังหลายๆเรื่องแน่นอนว่ามีการใส่ฉาก Long Take บางเรื่องก็ใส่แบบสั้นๆ บ้างก็แบบยาวๆหรือถ่ายทำตั้งแต่ต้นจนจบ วันนี้เลยจะพาไปดู 10 อันดับหนังที่ใช้เทคนิคเหล่านี้จนกลายเป็นที่จดจำของเหล่านักดูหนังมาฝากครับ ถ้างั้นไปดูกันเลยดีกว่า
One Cut Of The Dead (2018)
https://www.youtube.com/watch?v=yIjrUJvUQKc
เพิ่งจะกลับมาฉายในโรงเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา สำหรับหนังซอมบี้แหวกแนวจากแดนปลาดิบที่สร้างปรากฎการณ์เมื่อปี 2018 เมื่อกองถ่ายหนังสยองขวัญกำลังถ่ายทำหนัง จู่ๆเกิดซอมบี้บุกทำให้พวกเขาต้องหาทางเอาชีวิตรอดพร้อมถ่ายทำหนังเรื่องนี้ให้จบแบบไม่มีหยุดพัก!
จุดขายของหนังเรื่องนี้คือฉาก Long Take วิ่งหนีเหล่าซอมบี้ระยะเวลา 37 นาที ที่ผู้ชมจะได้ลุ้นระทึกและหัวเราะในความบ้าบิ่นถึงขนาดยกให้เป็นหนังซอมบี้สุดเกรียนเทียบเท่ากับหนังรุ่นพี่อย่าง Shaun Of The Dead กันเลยทีเดียว
Baby Driver (2017)
https://www.youtube.com/watch?v=3cwJencWQsM
ฉากจำที่ถูกพูดถึงนอกจากฉากซิ่งรถหนีตำรวจแล้ว ฉากเปิดเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นที่น่าจดจำไม่น้อย ฉากที่พระเอกต้องเดินไปซื้อกาแฟให้กลุ่มโจร ตลอดระยะเวลา 2 นาทีเราจะได้เห็นพระเอกเดินไปตรงจุดนั้นจุดนี้ก่อนจะหิ้วกาแฟกลับมาที่เดิม ซึ่ง เอ็ดการ์ ไรท์ ผู้กำกับได้ใช้วิธีถ่ายทำต่อเนื่องและใส่ลูกเล่นแบบมิวสิค วีดีโอ ทำให้ฉากเปิดเรื่องนี้มีเสน่ห์และเปิดเรื่องได้อย่างน่าสนใจไม่น้อย
ต้มยำกุ้ง – The Protector (2005)
https://www.youtube.com/watch?v=Bqw369ZskMk
ผลงานเรื่องที่สองของ โทนี่ จา หรือ จา พนม ที่ตอนนั้นเพิ่งจะโด่งดังจาก องค์บาก โดยเรื่องราวว่าด้วย ขาม ที่ต้องเดินทางตามหาช้างที่ถูกขโมยไปอยู่ที่ออสเตรเลีย ซึ่งถ้าจะพูดถึงฉากที่ได้ชื่อว่าเป็นลายเซ็นของหนังเรื่องนี้ ก็ต้องเป็นฉากตะลุยด่านขึ้นตึกความยาว 4 นาที ถ้าได้กลับมาดูซ้ำอีกหน ก็ยังคงเป็นฉากที่ตรึงใจและแสดงให้เห็นว่า ทีมงานและพี่จาของเราต้องการจะลองอะไรใหม่ๆที่ไม่จำเจ จนเป็นที่มาของฉากลองเทคในตำนานฉากนี้นี่เอง
London Has Fallen (2016)
https://www.youtube.com/watch?v=YLX29jC8AbM
หนังแอ็คชั่นภาคต่อจาก Olympus Has Fallen ที่เรื่องราวเล่าต่อจากเหตุการณ์ภาคที่แล้วเมื่อเจ้าหน้าที่ไมค์ แบนนิ่ง (เจอราร์ด บัตเลอร์) ต้องเดินทางไปอารักขาประธานธิบดี (อารอน เอคฮาร์ท) ไปร่วมงานศพนายกรัฐฒนตรีของอังกฤษ แต่ทว่าเขากลับกลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายสังหารของกลุ่มผู้ก่อการร้าย งานนี้ตัวเอกของเราจึงต้องทำหน้าที่ปกป้องชีวิตเจ้านายของเขาอีกครั้ง
หนึ่งในฉากสำคัญคือฉากที่ตัวเอกและหน่วย SAS ร่วมมือกันถล่มรังผู้ก่อการร้ายซึ่งถ่ายทำแบบต่อเนื่อง ความยาว 2-3 นาที มีทั้งไล่บุกประชิด หลบกระสุนและยิงตอบโต้ไปมา เรียกได้ว่าเป็นฉากมีความน่าสนใจและผู้ชมสนุกไปกับเรื่องราว
Extraction (2020)
https://www.youtube.com/watch?v=glOnDceqqJc
ผลงานแอ็คชั่น Netflix ของเทพเจ้าธอร์ คริส เฮมเวิร์ธ ที่สลัดภาพยอดฮีโร่ขอทุ่มสุดตัว ในบททหารรับจ้างที่ต้องคุ้มกันลูกชายของมาเฟียใหญ่ที่ต้องเดิมพันด้วยชีวิต ซึ่งฉากที่ถูกพูดถึงคือฉากไล่ล่าที่รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 11 นาที ตั้งแต่ไล่ล่าไปจนถึงฉากต่อสู้อย่างดุเดือด โดยเบื้องหลังฉากแอ็คชั่นเหล่านี้ได้ยกกองมาถ่ายทำที่เมืองไทย ซึ่งฉากแอ็คชั่นวินาศสันตะโรต้องยกเครดิตให้กับ แซม ฮาร์เกรป ผู้กำกับของเรื่องโดยใช้ประสบการณ์จากการเป็นสตั๊นท์แมนทำให้สามารถออกแบบไอเดียฉากบู๊ ระยะเวลา 11 นาทีกลายเป็นฉากสำคัญที่พูดถึงของคนที่ได้ชมเรื่องนี้จบลง
Lost In London (2017)
https://www.youtube.com/watch?v=GwyQcWvyE80
ผลงานของนักแสดงอย่าง วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน ที่หยิบเอาเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริง เมื่อครั้งที่เขาเดินทางไปยังอังกฤษและติดคุกที่ลอนเป็นเวลา 1 คืน ทำให้เขาต้องหาทางกลับบ้าน ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้ แน่นอนว่าเป็นหนังที่เขาลองที่จะถ่ายทำแบบ Long Take ม้วนเดียวจบแล้ว หนังเรื่องนี้ได้ลองทำอะไรที่น่าสนใจนั่นคือ การฉายหนังเรื่องนี้จะฉายแบบถ่ายทอดสดผ่านไลฟ์สตรีมจากลอนดอนไปยังโรงหนังในสหรัฐประมาณ 500 กว่าโรง เรียกได้ว่าผู้ชมจะได้ดูหนังเรื่องนี้ เหมือนได้อยู่ในเหตุการณ์จริงๆทุกวินาที
Birdman (2014)
https://www.youtube.com/watch?v=XtWP94WWaL0
งานระดับเวทีออสการ์ของ ไมเคิ่ล คีตัน ว่าด้วยเรื่องราวของอดีตนักแสดงชื่อดังจากบท The Birdman แต่เมื่อชื่อเสียงของเขาเริ่มหายไปตามกาลเวลา เขาจึงเรียกศรัทธาตัวเองด้วยการแสดงละครเวทีบรอดเวย์เพื่อทำให้ตัวเองกลับมายืนจุดสูงสุดในวงการอีกหนึ่ง
อเลฮันโดร กอนซาเลซ อินาร์ริตูผู้กำกับได้ใช้วิธีเล่าเรื่องแบบ Long Take เกือบทั้งเรื่องและมีการตัดต่อบางจุดเพื่อช่วยให้บางฉากกลมกลืน บวกกับเรื่องราวที่ได้จากชีวิตจริงของคีตัน ส่งผลให้หนังเรื่องนี้ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในเวทีออสการ์ปี 2014 ได้สำเร็จ
1917 (2020)
https://www.youtube.com/watch?v=4BWPqrC1Smo
เป็นหนังที่ถูกพูดถึงเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้ ว่าด้วยตัวเอกที่ได้รับภารกิจไปส่งข้อความให้กับกองทัพที่แนวหน้าในช่วงสงครามโลกครั้งที่1 เป็นผลงานที่เรียกเสียงฮือฮาเพราะผู้กำกับระดับออสการ์อย่าง แซม แมนเดส ใช้วิธีเล่าเรื่องแบบต่อเนื่องตั้งแต่ต้นจนจบเสมือนได้ไปร่วมรบกับตัวเอกตลอดเวลา รวมถึงฉากสงครามที่อลังการและถอดแบบได้สมจริงสมจังเป็นอย่างยิ่ง
Gravity (2013)
https://www.youtube.com/watch?v=vKW-Gd_S_xc
เรื่องราวของตัวเอกที่เป็นวิศวกรอวกาศที่ต้องเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันจากพายุอวกาศที่มีสาเหตุจากการทำลายกระสวยอวกาศของรัสเซียจนยานของกลุ่มเธอถูกทำลาย ทำให้เธอต้องอยู่ในห้วงอวกาศและพยายามหาทางกลับบ้านไปให้ได้
แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะถ่ายทำแบบ Long Take แต่ฉากนั้นถ่ายใน Green Screen รวมถึงการบล็อคชอตและการตีความของนักแสดงที่ต้องแสดงฉากราวกับอยู่ในอวกาศจริงๆ ถือว่าเป็นโจทย์หินของหนังเรื่องนี้แต่มันก็ทำให้ฉากเปิดเรื่องนี้กลายเป็นที่จดจำในที่สุด
La La Land (2016)
https://www.youtube.com/watch?v=xVVqlm8Fq3Y
ภาพยนตร์เพลงแห่งปี 2016 ที่กลายเป็นที่จดจำ ว่าด้วยเรื่องราวของหญิงสาวที่หลงใหลการแสดงกับหนุ่มนักเปียโน จนกลายเป็นความสัมพันธ์ที่แต่ละฝ่ายผลักดันซึ่งกันและกันเพื่อไปสู่เป้าหมายของตัวเองที่หวังไว้ ถ้าพูดถึงฉาก Long Take ที่น่าจดจำก็ต้องนึกถึงฉากเปิดเรื่อง 6 นาที บนสะพานมุ่งสู่แอลเอซึ่งกว่าจะได้ฉากนี้ต้องเจออุปสรรคหลายอย่าง แต่พวกเขาก็สามารถเนรมิตฉากเปิดเรื่องได้สำเร็จ
ทั้งหมดนี้คือ 10 อันดับ ฉาก Long Take ที่น่าจดจำมาเล่าสู่กันฟัง หากมีเรื่องไหนขาดตกเรื่องไหนไป ก็ต้อง ขอ อภัยมา ณ ที่นี้ด้วย แล้วทุกคนมีฉากไหนที่น่าจดจำ ลองคอมเม้นมาแลกเปลี่ยนกันได้เลยครับ
@P.PETTY
ข้อมูลประกอบ
- https://www.sarakadeelite.com/lite/long-take-101/
- https://mover.in.th/m-article/8-movie-long-take/
- http://www.tasteofcinema.com/2020/the-15-best-movies-with-very-long-takes/
- https://www.youtube.com/watch?v=XwMlo0aznkk
- https://www.youtube.com/watch?v=AJ33W_VNxyY
- https://www.youtube.com/watch?v=M8zC-zKt1BU