ถ้าหากจะพูดถึงแนวเกมที่กำลังได้รับความนิยม หลายคนส่วนใหญ่ก็ต้องนึกถึงเกมแนว Battle Royale เกมแนวเอาชีวิตรอดที่ผู้เล่นจะต้องใช้อาวุธหรือทักษะความสามารถของแต่ละคน ในการเอาชนะคู่ต่อสู้และอยู่รอดเป็นคนสุดท้าย ซึ่งกลายเป็นแนวเกมที่ฮิตจนออกมาหลายเจ้า แล้วเมื่อพูดถึง Battle Royale ใครที่เป็นแฟนหนังในยุค2000 จะต้องนึกถึงหนังสุดโหดจากประเทศญี่ปุ่นในชื่อเดียวกัน ซึ่งหนังเรื่องนี้ว่ากันว่ามันจุดประกายให้เกิดเกมแนวนี้ขึ้นรวมถึงหนังที่ได้ทั้งแนวคิดและแรงบันดาลใจจากหนังเรื่องนี้เกิดขึ้นมากมาย วันนี้เราจะพาไปดู 10 หนังสไตล์ Battle Royale ซึ่งแต่ละเรื่องสนุกราวกับได้เหมือนเล่นเกมจริงๆกันเลยทีเดียวมาฝากกันครับ
Cinderella Game (2016)
นี่คือหนัง Battle Royale ฉบับไอดอล ว่าด้วยเรื่องราวของไอดอลสาวที่มาจากหลากหลายวง ตื่นขึ้นมาพบว่าพวกเธอได้เป็นส่วนหนึ่งของเกมที่มีชื่อว่า Cinderella Gameซึ่งกติกาก็คือเหล่าไอดอลจะต้องหาไพ่ตามจุดต่างๆ ก่อนจะนำไพ่มาดวลกันเพื่อหาผู้ชนะ ซึ่งหนังแทบจะนำองค์ประกอบหลายๆอย่างจาก Battle Royale มาปรับใช้ และหนังยังสะท้อนถึงวงการไอดอลที่มีการแข่งขันสูง พวกเธอพร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อเป็นอันดับหนึ่งให้ได้
As The God Will (2014)
เรื่องราวของเด็กหนุ่มนามว่า ชุน ที่เบื่อหน่ายกับชีวิตของตัวเองจนร้องขอกับพระเจ้าไปเล่นๆว่าอยากให้โลกนี้ไม่น่าเบื่อ จนกระทั่งเช้าวันหนึ่งในห้องเรียนที่ครูกำลังสอนแต่แล้วหัวคุณครูก็ระเบิดออกมา ! ทันใดนั้นก็มีตุ๊กตาล้มลุกดารุมะคอยมาระเบิดหัวนักเรียนทีละคนๆ จนสุดท้ายซุนก็สามารถปิดปุ่มที่ทำให้เกมจบลงได้ แต่นั่นมันเพียงแค่เกมแรกเท่านั้น ทำให้เขาได้พบกับนักเรียนที่มีชีวิตรอดจากเกมเดียวกัน แล้วต้องเจอเกมโหดอีกมากมายรอพวกเขาอยู่
The Incite Mill (2010)
ญี่ปุ่นได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งวิดีโอเกมและสามารถต่อยอดเป็นหนังได้หลากหลาย หนึ่งในตัวอย่างก็คงจะเป็นหนังเรื่องนี้ที่ดัดแปลงมาจากนิยายของ โยเนะซาวะ โฮโนบุ ที่มีกลิ่นอายของนิยาย อากาธา คริสตี้ และได้ ทัตสึยะ ฟูจิวาระ จาก Battle Royale กลับมาเล่นเกมอีกครั้ง ว่าด้วยเรื่องราวของ คน 10 คน ที่ได้รับข้อเสนอให้มาอยู่ร่วมกันในบ้านปิดตายชื่อ Paranoid House ซึ่งถ้าอยู่ครบก็จะได้ค่าจ้างตามที่ตกลง แต่ทว่าเกิดเหตุมีคนตายทำให้พวกเขาเริ่มสงสัยว่า 1 ใน 10 คนที่เป็นฆาตกร ซึ่งถ้าหากใครไขปริศนาหาคนร้ายเจอ ก็จะได้โบนัสอีกสองเท่า
Judge (2013)
หนังที่ดัดแปลงจากผลงานการ์ตูนของ โทโนะไก โยชิกิ ซึ่งเคยตีพิมพ์ในชื่อไทย คำพิพากษา ว่าด้วยเรื่องราวของคน 9 คนที่ถูกจับมาอยู่ในศาลเก่าซ่อมซ่อ พร้อมกับถูกถูกสวมหัวเป็นสัตว์ต่างๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ของบาปทั้ง 7 ประการ การรอดชีวิตออกไปจากที่นี่มีเพียงทางเดียวคือ ต้องตัดสินบาปของคนอื่นเพื่อสังเวยชีวิต และจะมีผู้เหลือรอด 4 คนสุดท้ายเท่านั้น ที่จะได้ออกจากเกมนี้อย่างมีลมหายใจ
Ready or Not (2019)
เรื่องราวของนางเอกที่กำลังจะได้แต่งงานและเป็นสะใภ้ของตระกูลผู้มีฐานะ แต่ทว่าก็มีทดสอดบนั่นก็คือต้องเลือกเกมที่จะเล่น ซึ่งปรากฏว่ามันคือเกมซ่อนหา แต่ไม่ใช่เกมซ่อนหาธรรมดา หากครอบครัวของเจ้าบ่าวเตรียมจะล่าเอาชีวิตเธอ ทำให้เธอต้องหาทางเอาตัวรอดจนกว่าจะถึงเช้าวันใหม่ เรียกว่ามีกลิ่นอายแบบ Battle Royale พอสมควร
EXAM (2009)
บางครั้ง Battle Royale ก็ไม่ได้มาในแบบให้เราใช้อาวุธแล้วฆ่าอีกฝ่าย แต่เป็นการใช้ปัญญาและความสามารถในการกำจัดอีกฝ่าย ซึ่งชวนให้นึกถึงหนังเรื่องนี้ ว่าด้วยเหล่าผู้สมัครงาน 8 คน ที่จะมาสมัครในตำแหน่งงานและรายได้สูง พวกเขาต้องเจอข้อสอบสุดหินที่ไม่ใช่ว่าโจทย์ยากแต่อย่างใด มีเพียงปากกาและกระดาษเปล่าให้เขียนคำตอบ โดยมีเวลา 80 นาที ต้องบอกว่าโหดจริงๆ ต้องไปหาดูกันครับ
The Belko Experiment (2016)
“เพื่อนร่วมงานก็เหมือนครอบครัว” ไม่สามารถใช่ได้กับหนังเรื่องนี้ หนังเล่าถึงบริษัทแห่งหนึ่งที่ตัดสินใจปิดตึกแล้วพนักทุกคนในบริษัทลงมือฆ่ากันเองเพื่อความอยู่รอด และจะเพียงคนเดียวจะได้ออกไปจากตึกนี้ไป หนังถือว่านำองค์ประกอบจากหลายๆเรื่อง แต่ที่น่าสนใจคือมันสะท้อนสังคมในแบบย่อส่วนผ่านเรื่องราวของพนักงานที่ต้องฆ่ากันเพื่อความอยู่รอด
The Condemned (2007)
หนังสไตล์ Battle Royale ที่ได้ดารานักมวยปล้ำอย่าง Stone Cold Steve Austin มาร่วมแข่งเกมของมหาเศรษฐีที่จะถ่ายทอดให้กับผู้ชมทั่วโลก เกมที่จะมอบโอกาสให้กับเหล่านักโทษประหารชีวิตได้สู้กันบนเกาะร้าง และพยายามเอาตัวรอดจนเหลือเพียงคนสุดท้ายที่ผู้ชนะจะได้รับอิสรภาพไป เป็น Battle Royale แบบคนคุกขนานแท้
The Hunger Game (2012)
ถ้า Battle Royale คือต้นแบบหนังเกมเอาชีวิตรอดแห่งยุค 2000 สำหรับรุ่นนี้หนึ่งในหนังที่น่าจะสูสีที่สุดก็คงเป็น The Hunger Game ที่ว่าด้วยเรื่องราวประเทศในโลกอนาคตภายหลังการล่มสลาย ตั้งอยู่ที่ทวีปอเมริกาเหนือในปัจจุบัน มีแคปิตอลเป็นเมืองหลวงที่มีความเจริญเป็นอย่างสูง ใช้การเมืองเป็นอำนาจปกครองเหนือทุกสิ่ง โดยได้มีการจัดเกมล่าชีวิต ซึ่งเป็นการแข่งขันประจำปีที่เขตปกครองภายใต้อำนาจของแคปิตอลทั้ง 12 เขตจะต้องคัดเลือกบรรณาการชายหญิงอายุระหว่าง 12-18 ปี เพศละคน จากการจับฉลาก เพื่อเข้าต่อสู้ในการแข่งขันที่เสี่ยงตายออกรายการโทรทัศน์
Battle Royale (2000)
ปิดท้ายกับหนังที่จุดประกายให้เกิดเกมหรือหนังแนวนี้เกิดขึ้นมากมาย โดยหนังบอกเล่าถึงประเทศหนึ่งที่เข้าสู่วิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำ วัยรุ่นกลายเป็นปัญหาใหญ่ระดับชาติจนเหล่าผู้ใหญ่ออกมาดัดนิสัยด้วยการสร้างกฎ Battle Royale ที่จะทำการจับสุ่มเลือกห้องเรียนชั้นมัธยม 1 ห้อง แล้วส่งไปยังเกาะร้างห่างไกลแล้วทำการฆ่ากันเองให้เหลือผู้ชนะเพียงคนเดียว
ทั้งหมดนี้คือ 10 เรื่องราวของหนังสไตล์ Battle Royale ที่นำมาฝากในวันนี้ครับ…
@P.PETTY
ข้อมูลอ้างอิง
- https://www.bugaboo.tv/movie/579147
- https://screenrant.com/best-worst-movie-battle-royales-ranked/
-
Blokees Saint Seiya – Star Edition : 1st [กล่องสุ่ม / ราคา / วันวางขาย / สั่งซื้อ]
#Blokees #SaintSeiya #Toys #Model #กล่องสุ่ม
-
ทำความรู้จักม้ามืดของปี 2024 Balatro: เกมไพ่ผสมกลยุทธ์สุดมันส์
#เกมส์ #เกมไพ่ #เกมกลยุทธ์ #เกมมือถือ
-
Dynasty Warriors: Origins [สั่งซื้อเกมถูก , PS5, Xbox Series,PC]
วีรบุรุษไร้นาม จะลุกขึ้นต่อสู้ในโลกของสามก๊ก